×

กลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น: พรีวิวผลประกอบการ 1Q65 มีแนวโน้มสดใสและแข็งแกร่งขึ้น

03.05.2022
  • LOADING...
กลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น

เกิดอะไรขึ้น:

SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q65 ของบริษัทกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น ภายใต้การวิเคราะห์จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP), บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) และ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 

 

กระทบอย่างไร: 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน (SETENERG) ปรับลดลง 2.1%MoM 

  • ราคาหุ้น BCP ปรับเพิ่มขึ้น 14.4%MoM สู่ระดับ 33.75 บาท 
  • ราคาหุ้น IRPC ปรับลดลง 1.1%MoM อยู่ที่ระดับ 3.52 บาท 
  • ราคาหุ้น SPRC ปรับเพิ่มขึ้น 12.5%MoM สู่ระดับ 10.80 บาท 
  • ราคาหุ้น TOP ปรับเพิ่มขึ้น 10.6%MoM สู่ระดับ 57.50 บาท 

 

พรีวิวผลประกอบการ 1Q65:

SCBS คาดว่าผลประกอบการ 1Q65 จะสดใสและแข็งแกร่งขึ้น โดยค่าการกลั่นสิงคโปร์ (Singapore GRM) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 33%QoQ สู่ 8.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลใน 1Q65 (เพิ่มขึ้น 305%YoY) หลักๆ ได้แรงหนุนจาก Crack Spread ที่กว้างขึ้นของน้ำมันดีเซลสู่ 19.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556) โดยเกิดจากการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันในการผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซเพิ่มมากขึ้น และสถานการณ์ขาดแคลนอุปทาน เนื่องจากสหภาพยุโรปเดินหน้าคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย 

 

ขณะที่ Crack Spread ของน้ำมันเบนซิน ก็เพิ่มขึ้น 15%QoQ สู่ 17.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อันเป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเชื่อว่าค่าการกลั่น (GRM) ที่ดีและกำไรสินค้าคงคลังจำนวนมาก อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทที่ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันใน 1Q65 แม้ว่า Crude Premium จะกว้างขึ้น

 

สำหรับคาดการณ์ผลประกอบการของหุ้นโรงกลั่นน้ำมันในไทยภายใต้การวิเคราะห์มีดังนี้

BCP: คาดรายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 4.79 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นมาก 110%YoY และ 173%QoQ โดยได้รับการสนับสนุนกำไรสต๊อกจำนวนมาก และ Crude Run ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ผลการดำเนินงานบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจ E&P (OKEA) ก็น่าจะยังอยู่ในระดับที่ดี เพราะราคาน้ำมันและก๊าซสูงขึ้นและไม่มีขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์

 

IRPC: คาดรายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 1.51 พันล้านบาท ลดลง 73%YoY และ 31%QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการหยุดซ่อมบำรุงหน่วย Hyvahl ในโรงงาน RDCC ตามแผนเพื่อเปลี่ยนสารเร่งปฏิกิริยา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ Crude Run ลดลงเล็กน้อยจาก 198 พันบาร์เรลต่อวันใน 4Q64 สู่ 195 พันบาร์เรลต่อวันใน 1Q65

 

SPRC: คาดรายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 4.17 พันล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก 108%YoY และ 125%QoQ เพราะ GRM สูงขึ้นและมีกำไรสต๊อกบางส่วน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลที่ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) ในเดือนมกราคม 2565 จำนวน 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

TOP: คาดรายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 6.93 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมาก 106%YoY และ 38%QoQ เพราะกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันแข็งแกร่งมากขึ้น โดยได้แรงหนุนจาก GRM ที่สูงขึ้นและกำไรสินค้าคงคลัง และคาดว่าบริษัทจะบันทึกกำไรสินค้าคงคลัง 1.2 หมื่นล้านบาทใน 1Q65 ซึ่งจะถูกลดทอนโดยขาดทุนจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันจำนวน 7 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ แม้ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันไทยส่วนใหญ่จะได้รับประโยชน์จาก GRM ที่แข็งแกร่งขึ้นในระดับที่แตกต่างกัน แต่ SCBS มอง BCP อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เพราะกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจ E&P จะเพิ่มขึ้น

 

แนวโน้มผลประกอบการในปี 2565:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ค่าการกลั่นและราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ราคาหุ้นโรงกลั่นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 4-11%) ดีกว่า SET (ลดลง 1.3%) และ SETENERG (ลดลง 2.1%) อย่างมาก 

 

SCBS คาดว่ามุมมองเชิงบวกของตลาดเกี่ยวกับการฟื้นตัวของ GRM จะเกิดขึ้นต่อเนื่องใน 2Q65 ขณะที่ใน 2Q65TD Singapore GRM ยังคงแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น 26%QoQ สู่ 18.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากสหภาพยุโรปเริ่มเดินหน้าคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียอย่างเข้มข้น และอุปสงค์หลังเกิดโควิดฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเชื่อว่าแนวโน้มเช่นนี้จะช่วยสนับสนุน Market GRM ในปี 2565 แม้ว่าอุปสงค์น้ำมันเครื่องบินจะยังไม่ฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิดอย่างน้อยจนถึงปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากกลยุทธ์ Zero-COVID ของจีน

 

อย่างไรก็ตาม SCBS มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อ GRM เฉลี่ยในปี 2565 ที่ 10-11 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เทียบกับปี 2564 ที่ 3.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และค่าเฉลี่ย 5 ปี (ก่อนเกิดโควิด) ที่ 6.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ อุปสงค์ที่ชะลอตัวลงสืบเนื่องมาจากการล็อกดาวน์รอบใหม่ของจีนเพื่อคุมโควิด ดังเห็นได้จากการคาดการณ์ของตลาดว่า Saudi Aramco จะลดราคาขายน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการ (OSP) ในเดือนมิถุนายน 2565 เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดเอเชียชะลอตัว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising