การแก้รัฐธรรมนูญล่มไม่เป็นท่าและยังไม่เห็นทางไปต่อเมื่อกติการะบุไว้ว่าต้องใช้เสียงจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 1 ใน 3 ดังนั้นต่อให้คะแนนจากฝั่ง สส. ที่เอาพรรคเพื่อไทยรวมกับพรรคประชาชนก็ยังไม่เพียงพอที่จะปลดล็อกการแก้รัฐธรรมนูญ
สำหรับวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญในตอนแรกดูเหมือนว่าจะเป็นจุดร่วมของพรรคแดงและพรรคส้ม แต่พอถึงวันประชุมจริงกลายเป็นหนังคนละม้วน พรรคแดงพรรคส้มเห็นต่างกันในวิธีการอย่างชัดเจน ฝั่งพรรคแดงมองว่าควรทำให้การประชุมล่มไปเพราะเดินหน้าต่อไปจะทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไปทั้งฉบับ ขณะที่ฝั่งพรรคส้มมองว่าตราบใดที่ยังไม่ลงมติร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะยังไม่ตกไป และมีข้อบังคับให้อภิปรายโดยขอเลื่อนการลงมติออกไปได้
เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมากมายเปรียบเหมือนละครฉากใหญ่ที่ถูกกำหนดตอนจบไว้แล้ว ตอนจบถูกเขียนไว้ที่วงมาม่าบ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นคำขาดว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญ