พนักงานของ Twitter อาจกำลังรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ เมื่อ ‘อีลอน มัสก์’ ผู้ที่กำลังจะเป็นเจ้าของคนใหม่ วางแผนที่จะหั่นพนักงานออก 75% ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นน่าจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อความสามารถในการควบคุมเนื้อหาที่เป็นอันตรายและป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล
The Washington Post รายงานโดยอ้างอิงเอกสารที่ได้รับมาระบุว่า มัสก์บอกกับผู้ที่สนใจร่วมลงขันในการซื้อ Twitter ว่า เขาวางแผนที่จะลดพนักงานลงจาก 7,500 คน เหลือราว 2,000 คนเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Binance ยันลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ เดินหน้าควัก 1.5 หมื่นล้านบาท ร่วมทุนกับ ‘อีลอน’ เข้าซื้อ Twitter
- บรรดาแบงก์ที่จะปล่อยกู้ให้ อีลอน มัสก์ เข้าซื้อหุ้น Twitter อาจขาดทุนได้ถึง 500 ล้านดอลลาร์
- หุ้น Twitter พุ่ง 22% หลัง อีลอน มัสก์ กลับลำ 180 องศา ยอมเข้าซื้อราคาเดิม นักวิเคราะห์มอง ที่ยอมเพราะคาดว่าแพ้ในการฟ้องศาลแน่ๆ
กระนั้นรายงานก็ระบุว่า ถึงไม่มีการเข้าซื้อจากมัสก์ ผู้บริหารของ Twitter วางแผนที่จะลดค่าใช้จ่ายสำหรับเงินเดือนลงประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งคิดเป็นตัวเลขพนักงานที่ต้องหายไปราว 1 ใน 4
ข้อมูลที่ไม่เคยถูกรายงานที่ไหนมาก่อนอาจเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไม Twitter จึงกระตือรือร้นที่จะขายให้กับมัสก์ ด้วยเม็ดเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ นี่จะกลายเป็นตั๋วเงินชั้นดี แถมฝั่งผู้บริหารยังไม่ต้องประกาศข่าวร้ายให้เป็นที่นินทาของพนักงานอีกด้วย
เอ็ดวิน เฉิน นักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลซึ่งเคยดูแลเรื่องสแปมของ Twitter และปัจจุบันเป็นซีอีโอของ Surge AI สตาร์ทอัพด้านการดูแลเนื้อหา แสดงความคิดเห็นว่า ผลกระทบของการเลิกจ้างดังกล่าวจะเกิดขึ้นทันที แม้เขาเชื่อว่า Twitter มีพนักงานมากเกินไป แต่การหั่นคนออก 75% นั้น ‘เป็นไปไม่ได้’ และจะทำให้ผู้ใช้ Twitter เสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก และสัมผัสกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพลามกอนาจารของเด็ก
Twitter และมัสก์ คาดว่าจะปิดดีลซื้อขายกันได้ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ซึ่งหากบรรลุข้อตกลงที่กินเวลาหลายเดือนได้ มหาเศรษฐีเทคโนโลยีจะกลายเป็นเจ้าของยักษ์ใหญ่ด้านโซเซียลมีเดียทีนที
“ส่วนที่ง่ายสำหรับมัสก์คือการซื้อ Twitter และส่วนที่ยากคือการแก้ไข” แดน อีฟส์ นักวิเคราะห์ทางการเงินของ Wedbush Securities กล่าว “มันจะเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะพลิกสถานการณ์นี้”
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านบรรษัทภิบาลชี้ว่า หากมัสก์ต้องการปลดพนักงานจำนวนมาก สิ่งที่เขาต้องทำคืออธิบายให้ชัดเจนถึงทิศทางต่อไป เพราะหากไม่มีพนักงานแล้ว ใครจะเป็นคนทำงานแทน หรือเขาจะใช้ AI เข้ามาแทนที่? โดยก่อนหน้านี้ Bloomberg รายงานในเดือนเมษายนว่า มัสก์ได้วางแผนเบื้องต้นที่จะลดพนักงานอยู่แล้ว
เมื่อเร็วๆ นี้ รายงานของ Business Insider ระบุว่า หนึ่งในผู้ที่ลงขันกับมัสก์ชี้ว่า Twitter มีมูลค่าเพียง 1-1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเรื่องนี้มัสก์ได้กล่าวในระหว่างแถลงผลประกอบการณ์ไตรมาส 3 ที่ผ่านมาว่า เขาและนักลงทุนของเขา ‘จ่ายเงินมากเกินไปอย่างเห็นได้ชัด’ แต่กระนั้นเขาเชื่อว่า “ศักยภาพในระยะยาวของ Twitter นั้นมีความสำคัญมากกว่ามูลค่าปัจจุบัน”
มัสก์บอกนักลงทุนว่าเขาวางแผนที่จะเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่าใน 3 ปี และเพิ่มจำนวนผู้ใช้รายวันเป็น 3 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่ง Twitter ประมาณการว่าผู้ใช้ที่ใช้งานรายวันที่สร้างรายได้ (mDAU) มีอยู่ราว 237.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
หนึ่งในแผนของมัสก์คือการขยายบริการใหม่ที่เขาอ้างว่าสามารถสร้างรายได้มากขึ้น เช่น ธุรกิจสมัครสมาชิก ที่ผู้คนจ่ายเงินเพื่อสมัครรับเนื้อหาพิเศษจากบุคคลสำคัญและผู้มีอิทธิพล (Twitter กำลังทดลองกับรูปแบบดังกล่าวที่เรียกว่า Twitter Blue)
แต่ข้อมูลของ Twitter พบว่าการสมัครรับข้อมูลอาจไม่สร้างรายได้ใหม่อย่างมีนัยสำคัญ เพราะหากลูกค้าเริ่มจ่ายค่าสมัครสมาชิกรายเดือนและไม่มีโฆษณา จะกลายเป็นการทุบหม้อข้าวของตัวเอง เพราะจะกระทบกับ ‘โฆษณา’ อันเป็นแหล่งรายได้หลักทันที
ภาพ: Muhammed Selim Korkutata / Anadolu Agency / Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.washingtonpost.com/technology/2022/10/20/musk-twitter-acquisition-staff-cuts/
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-10-20/musk-plans-to-cut-twitter-workforce-by-75-washington-post-says
- https://www.cnbc.com/2022/10/19/elon-musk-says-tesla-is-pedal-to-the-metal-even-in-recession.html