ทุกคนตั้งแต่พนักงานไปจนถึงนักลงทุนใน Twitter ต่างก็อยากรู้ว่า หลังจากใช้เงิน 1.5 ล้านล้านบาทเข้าซื้อ Twitter อีลอน มัสก์ มีแผนในการบริหารธุรกิจอย่างไรต่อ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการปลดพนักงาน โดยหวังเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มรายได้ ซึ่งนี่ถือเป็นการสวนทางคำพูดที่เคยบอกว่าไม่สนใจเรื่องผลกำไร
Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงคำพูดของแหล่งข่าวที่ว่า ในระหว่างที่ปรึกษากับธนาคารเพื่อทำดีลในการเข้าซื้อ Twitter จู่ๆ เข้าก็มีไอเดียในหัวเรื่องการปลดพนักงาน เพื่อกระตุ้นการสร้างรายได้และผลกำไร
“ในขณะที่ไม่มีอะไรแน่นอน และมัสก์เองก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการเงินที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะของ Twitter ได้ในขณะนั้น แต่เขากล่าวถึงการลดงานโดยเฉพาะ” ในระหว่างการหารือกับธนาคาร ขณะที่รายงานของ Washington Post ระบุว่า มัสก์พูดถึงการสร้าง ‘ประสิทธิภาพ’ ของ Twitter ในการสนทนากับธนาคาร ‘ซึ่งอาจรวมถึงการเลิกจ้างงานด้วย’
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- 4 แนวทางการเปลี่ยนแปลงที่อาจได้เห็นใน Twitter หลัง ‘อีลอน มัสก์’ เข้าซื้อนกฟ้ามาอยู่ในกรงของตัวเอง
- ‘อีลอน มัสก์’ ปิดดีลซื้อหุ้นทวิตเตอร์ 44,000 ล้านดอลลาร์ เตรียมยกเครื่องระบบ กำจัดสแปม เพิ่มความน่าเชื่อถือ
แหล่งข่าวไม่ได้ลงรายละเอียดถึงตำแหน่งงานที่จะถูกปลดลง แต่ The Verge ประเมินว่า บางทีแผนกประชาสัมพันธ์อาจเป็นกลุ่มที่เสี่ยงที่สุด เพราะก่อนหน้านี้มัสก์ได้ยุบแผนกนี้ของ Tesla ไปแล้ว
มัสก์ยังได้เผยถึงแนวคิดในการสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มและเพิ่มกระแสเงินสด รวมถึงบริการ Subscription เพื่อเพิ่มรายได้ประจำ
สำหรับธนาคาร มัสก์อาจได้พูดคุยถึงแนวทางในการปรับปรุงผลกำไร แต่ในที่สาธารณะเขาระบุว่า ตัวเองนั้นไม่สนใจ Twitter ในฐานะแหล่งที่จะสร้างเงินให้กับตัวเอง “นี่ไม่ใช่วิธีการหาเงิน” มัสก์กล่าวที่ TED 2022 เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา
“ความรู้สึกโดยสัญชาตญาณที่แข็งแกร่งของผมคือการมีแพลตฟอร์มสาธารณะที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดและครอบคลุมในวงกว้าง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของอารยธรรม ผมไม่สนใจเรื่องเศรษฐศาสตร์เลย”
ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกยังย้ำถึงแนวคิดบางอย่างที่เขาทวีตเกี่ยวกับวิธีการบริหาร Twitter ในอนาคต โดยเขาแสดงความต้องการให้ผู้มีอิทธิพลและคนดังมีส่วนร่วมมากขึ้นบนแพลตฟอร์ม ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการสื่อสารไปยัง Taylor Swift ที่ไม่ได้โพสต์มาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว
Twitter เพิ่งเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรก โดยมีรายได้ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเล็กน้อย แม้รายได้จะเติบโต 16% แต่นี่เป็นตัวเลขการเติบโตที่แย่ที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส
ถึงกระนั้น ประสิทธิภาพของ Twitter ก็สอดคล้องกับรายงานจาก Snap Inc. และ Meta Platforms Inc. ซึ่งกำลังต่อสู้กับการใช้จ่ายด้านโฆษณาที่ลดลง เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับซัพพลายเชน อัตราเงินเฟ้อ และสงครามที่ดำเนินอยู่ในยูเครน
หุ้นของ Twitter ปิดที่ 49.11 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าข้อเสนอซื้อหุ้นของมัสก์ที่ยื่นข้อเสนอซื้อ 54.20 ดอลลาร์
อ้างอิง: