อีลอน มัสก์ ออกมาบอกว่า การปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ‘เป็นเรื่องบ้าบอมาก’ เพราะจะกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงาน ย้ำ! จริงๆ ควรมีมากขึ้นด้วยซ้ำ

ในการให้สัมภาษณ์กับ Insider เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ บอกว่า การปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นเป็นเรื่องที่บ้าบอมาก เพราะจะกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงาน พร้อมเสนอว่า จริงๆ ควรมีมากขึ้นด้วยซ้ำ

“ผมอยากพูดให้ชัดเจน คุณไม่เพียงไม่ควรปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่คุณควรเปิดโรงงานที่ปิดตัวไปแล้วอีกครั้งด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นหนทางที่เร็วที่สุดในการผลิตพลังงาน เป็นเรื่องบ้าที่จะปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอยู่ในที่ที่ไม่มีภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงหรือสึนามิ” มัสก์กล่าว

ซีอีโอของ Tesla และ SpaceX ยังได้ยกตัวอย่างว่า เยอรมนีไม่ได้มีภัยธรรมชาติที่รุนแรง ดังนั้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จึงไม่ได้เป็นอันตราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ในขณะที่ประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส สเปน และสวีเดน สนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์ แต่เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป วางแผนที่จะปิดโรงไฟฟ้าปรมาณูที่เหลืออีก 3 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจได้ย้ำถึงมุมมองของเขาในการสัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า พลังงานนิวเคลียร์ไม่น่าเชื่อถือ

ส่วนรายงานที่ส่งไปยังรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่า อเมริกาได้ปิดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 12 เครื่องอย่างถาวรตั้งแต่ปี 2012 ข้อมูลจาก IAEA บ่งชี้ว่า มีการปิดเครื่องปฏิกรณ์ 203 เครื่อง คิดเป็นจำนวนการผลิตพลังงาน 98,000 เมกะวัตต์

ขณะเดียวกันล่าสุดนั้นมัสก์ยังได้ออกมาทวีตอีกว่า นักสิ่งแวดล้อมบางคนเป็นพวก ‘ต่อต้านมนุษย์’ ฐานสนับสนุนการปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

มัสก์ให้การสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์มาโดยตลอด เพราะมองว่าพลังงานนิวเคลียร์มีความสำคัญกว่าแหล่งอื่นๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยพลังงานนิวเคลียร์นั้นถือเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งเชื่อมโยงกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วไม่ว่าจะเป็นเชอร์โนบิลและฟุกุชิมะ

การสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์ยังเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมด้านพลังงานที่นอร์เวย์ในวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมัสก์กล่าวว่า “ถ้าคุณมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ออกแบบมาอย่างดี คุณไม่ควรปิดตัวลง โดยเฉพาะตอนนี้”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tesla Inc. บอกอีกว่า โลกต้องการน้ำมันและก๊าซมากขึ้นในขณะนี้ เพื่อจัดการกับปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ในขณะเดียวกันก็ต้องผลักดันให้เปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างการหยิบศักยภาพของลมทะเลมาใช้มากขึ้น

ความคิดเห็นของเขาเกิดขึ้นในขณะที่ยุโรปกำลังต่อสู้กับวิกฤตด้านพลังงานครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ จากการที่รัสเซียลดการส่งมอบก๊าซธรรมชาติไปยังภูมิภาคนี้ และความขัดข้องของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในฝรั่งเศสทำให้อุปทานลดลงไปอีก ทำให้ราคาพลังงานขายส่งพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH