เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หุ้นของ Tesla แตะจุดต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ และซีอีโอของบริษัทอย่าง อีลอน มัสก์ โทษว่าส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค
ทั้งนี้ รอส เกอร์เบอร์ นักลงทุนที่อยู่กับ Tesla มาอย่างยาวนานทวีตว่า “ราคาหุ้นตอนนี้สะท้อนถึงคุณค่าของบริษัทที่ไม่มีซีอีโอ เยี่ยมมากคณะกรรมการของ Tesla! มันถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงแล้ว” โดยได้เปิดตัวแคมเปญอย่างไม่เป็นทางการเพื่อให้ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ลงคะแนน เพื่อแต่งตั้งให้เขาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของ Tesla
มัสก์ตอบกลับผ่านทวีตว่า “เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารที่ถูกรับประกันแล้วขยับเข้าใกล้ผลตอบแทนตลาดหุ้นที่ไม่ถูกรับประกัน ผู้คนจะเปลี่ยนหุ้นเป็นเงินสดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นตก” ทั้งนี้ หุ้นของ Tesla ลดลงมากกว่าผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ นับตั้งแต่มัสก์ประกาศแผนเข้าซื้อ Twitter เมื่อเดือนเมษายนของปีนี้ โดยหุ้นของ Tesla ลดลง 59% ในขณะที่ Ford ลดลง 26% และ 12% สำหรับ General Motors
ซึ่งมัสก์ได้ขายหุ้น Tesla หลายพันล้านดอลลาร์เพื่อมาเป็นเงินทุนสำหรับดีล Twitter และเมื่อต้นเดือนได้ขายอีก 3.6 พันล้านดอลลาร์ มัสก์ได้บอกกับพนักงาน Twitter ว่าเขาขายหุ้น Tesla เพื่อ ‘รักษา’ อาชีพของพวกเขาไว้ ขณะที่ลดจำนวนพนักงานในบริษัทลงมากกว่าครึ่ง และเปลี่ยนแปลงนโยบายมากมายบนแพลตฟอร์ม
นักวิเคราะห์จาก Mizuho Securities เขียนไว้ว่า “ในระยะสั้น ยอดขายของ Tesla อาจอ่อนแอลงจากผลกระทบของเศรษฐกิจมหภาค และผู้บริโภคที่ไม่มีกำลังซื้อมากนักอาจไม่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาสูงขึ้น” ทั้งนี้ บริษัทยังคงเชื่อมั่น Tesla ในระยะยาว โดยอ้างว่าโรงงานแห่งใหม่ของ Tesla จะเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
โจชัว ไวต์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย Vanderbilt บอกกับ CNBC ว่า “มีเพียงบางส่วนของมูลค่าที่ลดลงเท่านั้นที่ Tesla จะโทษว่าเกิดจากอัตราดอกเบี้ยได้ และการ Overhang ของหุ้น Twitter ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Tesla มาที่ประเทศไทยแล้ว! เคาะราคาขาย Model Y เริ่ม 1.959 ล้านบาท และ Model 3 เริ่ม 1.759 ล้านบาท เปิดให้จองวันนี้ได้เลย!
- Tesla หาพันธมิตรในไทย เป็นเจ้าของสถานีชาร์จ ฟากฝั่ง BYD ไม่รอช้า ลุยติดตั้ง EV Charger ให้ลูกค้ารถ BYD ถึงบ้าน
- ‘ไม่มีความเป็นผู้นำ-อีโก้สูง-ไล่ใครก็ได้ออกตามอำเภอใจ’ เสียงสะท้อนของพนักงาน Tesla ถึง ‘อีลอน มัสก์’
อ้างอิง: