หลังหุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้น 11.2% ในวันเดียว ทำให้มูลค่าหุ้นที่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอชาวอเมริกัน วัย 49 ปี ถืออยู่เพิ่มขึ้น 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.18 แสนล้านบาท สิริรวมแล้วมีมูลค่าทั้งสิ้น 8.36 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.6 ล้านล้านบาท
สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลให้มัสก์ได้กลับขึ้นสู่ทำเนียบบุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 5 ของโลกอีกครั้ง แซงหน้า มูเกช อัมบานี ซึ่งดำเนินธุรกิจน้ำมันและก๊าซของอินเดีย และยังแซง วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีหุ้นชาวอเมริกันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเขาไม่ติดตาม แต่มัสก์ได้ระบุกับนิตยสาร Forbes ว่า “ฉันไม่สนเลยแม้แต่น้อย” เกี่ยวกับการยืนอยู่ในทำเนียบบุคคลที่ร่ำรวยของโลก เพราะ “ตัวเลขเหล่านี้ขึ้นๆ ลงๆ แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่ผู้คนชื่นชอบ”
ก่อนหน้านี้ มัสก์ยืนอยู่ในอันดับที่ 5 ของทำเนียบบุคคลที่ร่ำรวยของโลกในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อมูลค่าหุ้นที่เขาถืออยู่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.3 ล้านล้านบาท หลังจากนั้นจึงถูกมหาเศรษฐีชาวอินเดียแซงหน้าไป
ตอนนี้หุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้นเกือบ 32% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าหุ้นที่มัสก์ถืออยู่ราว 21% ใน Tesla เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้นเขายังรั้งอันดับที่ 31 ในรายชื่อมหาเศรษฐีโลกของ Forbes
สำหรับราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นในครั้งนี้เกิดจากการที่นักวิเคราะห์ปรับราคาเป้าหมาย 12 เดือนเป็น 1,900 ดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันราคาหุ้นของ Tesla อยู่ที่ 1,835.64 ดอลลาร์สหรัฐ โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า Tesla ซึ่งเปิดโรงงานแห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้เมื่อปลายปี 2019 มีความพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่เพิ่มขึ้น และยังคาดการณ์อีกว่า มัสก์จะเปิดเผย ‘Game Changing’ เกี่ยวกับแบตเตอรี่ในวันที่ 22 กันยายนนี้
ปัจจุบัน Tesla เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกด้วยมูลค่าตลาด 3.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะผลิตรถยนต์น้อยกว่าคู่แข่งเช่น Ford และ Toyota ก็ตาม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์