×

‘อีลอน มัสก์’ หนุนสอบประวัติ ‘ผู้ซื้อปืน’ หลังเกิดเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมในเท็กซัส และขอให้สื่อเลิกให้ความสนใจกับฆาตกรด้วย

27.05.2022
  • LOADING...
อีลอน มัสก์

อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla และ SpaceX สนับสนุนให้มีการตรวจสอบประวัติอย่าง ‘เข้มงวด’ สำหรับทุกการซื้อปืน ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการเป็น ‘เจ้าของ’ ปืนสำหรับเป็น ‘การป้องกัน’ ต่อการปกครองแบบเผด็จการ 

 

คำกล่าวนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากมือปืนกราดยิงคร่าชีวิตเด็กอย่างน้อย 19 คน และผู้ใหญ่อีก 2 คน ในโรงเรียนประถมที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเท็กซัส

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ในอีเมลที่ส่งถึง CNBC มัสก์กล่าวโทษสื่อในเรื่องที่ให้ความสนใจฆาตกร เขาเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่ฆาตกรต้องการหลังการกราดยิง

 

“จากเหตุการณ์ล่าสุด เห็นได้ชัดว่ามือปืนทำเช่นนั้นเพื่อสร้างความสนใจให้ได้มากที่สุด แล้วทำไมสื่อถึงทำในสิ่งที่ฆาตกรต้องการ?”

 

บริษัทของมัสก์มีขนาดใหญ่มากในเท็กซัส โดยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ย้ายสำนักงานใหญ่ของตนจากแคลิฟอร์เนียมาที่ออสตินเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากข้อบังคับทางธุรกิจของเท็กซัสที่ไม่เข้มงวดเท่าที่อื่น

 

โดย Tesla ได้เปิดโรงงานผลิตรถยนต์และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่แห่งใหม่อย่างเป็นทางการที่ตั้งอยู่ใกล้กับออสตินเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

 

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มัสก์เปล่งเสียงในเรื่องการเมืองมากขึ้น โดยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมได้ประกาศว่าเขาวางแผนจะลงคะแนนเสียงให้พรรครีพับลิกัน

 

เขากล่าวในอีเมลถึง CNBC เมื่อวันพุธ (25 พฤษภาคม) ว่าเขาสนับสนุน ‘การสอบประวัติอย่างเข้มงวด’ สำหรับการขายปืนทั้งหมด และจำกัดการขายอาวุธให้กับ ‘บุคคล’ จำพวกที่อยู่ในที่ที่มีสงครามแก๊งหรือเจ้าของสนามยิงปืน

 

“ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าสิทธิในการถืออาวุธนั้นเป็นเครื่องป้องกันที่ดีอย่างยิ่งต่อการกดขี่ข่มเหงของรัฐบาล ในอดีตการรักษาอำนาจของตนให้ให้เหนือกว่าประชาชนคือสาเหตุที่ผู้มีอำนาจไม่อนุญาตให้เป็นเจ้าของปืนแบบอิสระ” มัสก์กล่าวในอีเมลที่ส่งถึง CNBC

 

Forbes จัดอันดับมัสก์ให้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินสุทธิกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ และตอนนี้เขาอยู่ในขั้นตอนของการเข้าซื้อกิจการ Twitter โดยเขากล่าวว่าเขาจะปล่อยให้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาโลดแล่นบนแพลตฟอร์มหากข้อตกลงผ่านไปด้วยดี

 

Twitter แบนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างถาวรในเดือนมกราคม 2021 หลังถูกผู้สนับสนุนปิดล้อมที่ศาลาว่าการสหรัฐฯ โดย ณ ขณะนั้น แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ตัดสินใจแบน ‘เนื่องจากความเสี่ยงที่จะมีการยุยงให้เกิดความรุนแรงอีก’

 

ภาพ: Jonathan Newton / The Washington Post via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X