วันนี้ (24 พฤษภาคม) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กวันนี้ มีการหารือเกี่ยวกับคลัสเตอร์ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งยังต้องเฝ้าระวัง 26 เขต 32 คลัสเตอร์ โดยมีคลัสเตอร์ใหม่ในเขตทุ่งครุ เป็นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า (ทาวน์โฮม) มีผู้ติดเชื้อแล้ว 29 คน และเขตบางแค ในสถานดูแลผู้สูงอายุเอกชน 3 แห่ง มีผู้ติดเชื้อแล้ว 23 คน
สำหรับคลัสเตอร์ในสถานดูแลผู้สูงอายุ พบว่าเริ่มต้นจากผู้ดูแล 3 คน ติดเชื้อเมื่อมาดูแลผู้สูงอายุ ก็ทำให้เกิดการระบาดในผู้สูงอายุทั้ง 3 แห่ง ซึ่งขณะนี้มีมาตรการให้ผู้ดูแลต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ส่วนผู้สูงอายุก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาด้วย ห้ามญาติมาเยี่ยม และกักตัวผู้ดูแลไม่ให้ออกไปนอกพื้นที่ รวมทั้งฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ พร้อมขอให้สถานดูแลผู้สูงอายุอื่นๆ ที่ยังไม่พบการติดเชื้อเร่งวางมาตรการป้องกันโดยด่วน
สำหรับการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 รายงานการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองรวม 105 ราย โดยในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 พล.อ. สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหารบก กองบัญชาการกองทัพไทย จะเข้ามารายงานเพิ่มเติมในเรื่องมาตรการการดูแลกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมือง
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก ที่มี พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน ได้เน้นย้ำว่าขอความร่วมมือฝ่ายปกครองในส่วนของจังหวัดให้มีการกำกับติดตามป้องกันการลักลอบเข้าประเทศผ่านแนวชายแดน โดยให้เข้มงวดมาตรการของรัฐเป็นหลัก ในส่วนของการติดตามนั้นจะติดตามตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทาง และหากพบว่าพื้นที่ใด โรงงานใด หรือบริษัทจัดหางานแห่งใด ให้ความช่วยเหลือในการลักลอบเดินทางข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย ตรงนี้จะถือเป็นความผิดและจะดำเนินคดี ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชน
“เราไม่ได้ห้ามประชาชนเหล่านี้เดินทางกลับประเทศ แต่เมื่อทำผิดและได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลใด หน่วยงานใดให้ที่พัก ช่วยเหลือเรื่องการเดินทาง หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือเรื่องการขนส่ง ขอให้ช่วยกันเฝ้าระวังตรงนี้” พญ.อภิสมัย กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
