วันนี้ (20 ตุลาคม) ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า อาจจะพิจารณาขยายจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ ‘คนละครึ่ง พลัส’ ไปจนถึงวงเงินเพิ่มเติม หลังวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568
“เดี๋ยวจะต้องดู เพราะว่า คนลงทะเบียนบางคนอาจไม่ได้ใช้สิทธิ์ก็ได้ เนื่องจาก ผู้ได้รับสิทธิ์ต้องมาใช้สิทธิ์ (activate) ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ต้องขอทบทวนดูในเรื่องของสิทธิต่างๆ และเงินเหลือเท่าไหร่อีกที” ดร.เอกนิติกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้สิทธิ์โดยซื้อสินค้าหรือบริการครั้งแรก ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ
เมื่อถูกถามเพิ่มเติมว่า หากความต้องการยังคงสูง จะมีการพิจารณาขยายวงเงินหรือไม่ ดร.เอกนิติกล่าวว่าจะรับไปพิจารณาดูอีกที โดยขอดูตัวเลขทั้งหมดก่อน
เอกนิติ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อประชาชนทุกคนที่ให้ความสนใจ และเข้ามาลงทะเบียนกันอย่างล้นหลาม พร้อมกับเผยว่า มีจำนวนผู้ลงทะเบียนสูงถึง 11 ล้านคนภายใน 30 นาทีแรกของการลงทะเบียน ซึ่งไม่ได้เหนือความคาดหมาย “เพราะคิดว่าวันแรกของการลงทะเบียน น่าจะเป็นที่ต้องการเยอะมาก” เอกนิติกล่าว
สำหรับกรณีที่ประชาชนบางส่วนประสบปัญหาระบบติดขัดในระหว่างลงทะเบียน ทางเอกนิติระบุว่า ระบบของธนาคารกรุงไทยถือว่ามีความรวดเร็ว และรองรับได้ดีกว่าเดิมมากแล้ว โดยกล่าวว่า “แต่ก่อนรองรับการลงทะเบียนได้ 100,000 Transaction ต่อวินาที แต่เมื่อเช้ารองรับได้ถึง 300,000 Transaction ต่อวินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก”
“แน่นอนว่าเมื่อคนเข้ามาเยอะก็ต้องติดขัดนิดนึง แต่วันนี้ทุกอย่างน่าจะเร็วมาก ต้องขอบคุณทีมงานทุกท่าน และประชาชนที่ให้ความสนใจเยอะ” เอกนิติกล่าว
ขณะที่มีประชาชนผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายคนกล่าวว่า พบเจอปัญหาต่างๆ เช่น เป็นผู้ยื่นแบบภาษีฯ แต่ได้รับวงเงินเพียง 2,000 บาท ขณะที่ผู้ลงทะเบียนบางส่วนซึ่งอ้างว่า ไม่ได้ยื่นแบบภาษีกลับได้รับวงเงิน 2,400 บาท
ด้านเอกนิติอธิบายว่า ทางการได้อ้างอิงข้อมูลผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90, 91, 95) ปีล่าสุด (ปีภาษี 2567) จากกรมสรรพากร ดังนั้น ผู้ลงทะเบียนแต่ละราย “ต้องดูว่า ตนเป็นการยื่นแบบในปีไหน แต่อันนี้คือเราใช้ในปีล่าสุด” ดังนั้น ผู้ที่ได้รับวงเงิน 2,400 บาทจึงต้องเป็นผู้ยื่นภาษีในปีล่าสุด
สำหรับผู้ที่ต้องรอการตรวจสอบข้อมูล เอกนิติอธิบายว่า อาจติดในขั้นตอนการตรวจสอบเงื่อนไข ตัวอย่างเช่น อาจเป็นผู้ที่เคยได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรืออาจเคยถูกระงับสิทธิในโครงการคนละครึ่งรอบก่อนๆ
ด้านลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ตามหลักเกณฑ์แล้วจะแจ้งผลการตรวจสอบ ภายใน 3 วัน และถ้าเป็นผู้ลงทะเบียนรายเก่า ซึ่งมีข้อมูลในบางส่วนในระบบอยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ที่จะรู้ผลในวันนั้นเลย
ลงทะเบียนร้านค้าเข้มขึ้นสกัดบัญชีม้า-สแกมเมอร์
สำหรับการลงทะเบียนฝั่งร้านค้า ดร.เอกนิติระบุว่า จากข้อมูลล่าสุด (เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 ตุลาคม) พบว่า ร้านค้ามียอดลงทะเบียน 3 แสนราย ภายหลังเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย 9 แสนราย (ทั้งโครงการ) ที่ตั้งไว้
โดยหลังจากเปิดลงทะเบียนร้านค้า ดร.เอกนิติกล่าวว่า มีความติดขัดเล็กน้อยในช่วงแรกๆ เนื่องจาก ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่จำเป็นต้องบังคับให้ร้านค้าถ่ายรูปยืนยันตัวตน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากความกังวลกรณีสแกมเมอร์ และบัญชีม้า พร้อมขอบคุณธนาคารกรุงไทย ที่ช่วยเปิดทำการในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยย้ำว่า ร้านค้ายังสามารถลงทะเบียนได้เรื่อยๆ จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของโครงการคนละครึ่ง พลัส
