ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่า One Piece คือหนึ่งในการ์ตูนมังงะที่ยอดเยี่ยมและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันนับเป็นเวลา 23 ปีเต็ม ที่ไอ้หนุ่มหมวกฟางลูฟี่ มนุษย์ยางผู้มีความใฝ่ฝันว่าจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด และพวกพ้อง ได้ออกเรือผจญภัยฝ่ามรสุมและคลื่นลม เพื่อมอบความสุข ความสนุกสนาน เสียงหัวเราะ คราบน้ำตาและความประทับใจ ให้แก่เหล่าผู้อ่านผ่านปลายปากกาของ เออิจิโระ โอดะ ชายผู้อุทิศเวลาทั้งชีวิตให้แก่การสร้างสรรค์การ์ตูนเรื่องนี้
เออิจิโระ โอดะ เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี 1975 ณ เมืองคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเด็กที่มีความหลงใหลและคลั่งไคล้ในการ์ตูนอย่างมาก มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า และตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิต เริ่มฝึกฝนการวาดการ์ตูนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ
หากไม่รวมเรื่องความรักความชอบที่มีอยู่ เหตุผลส่วนหนึ่งที่โอดะอยากทำงานเป็นนักวาดการ์ตูนเป็นเพราะว่าเขาไม่ต้องการทำงานออฟฟิศทั่วไปเหมือนคนอื่นๆ และอีกส่วนหนึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นจากการที่เขาเห็นพ่อของตัวเองชอบวาดภาพสีน้ำมันเป็นงานอดิเรก
แต่สิ่งที่มีอิทธิพลต่อตัวโอดะ และถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการวาดการ์ตูนของเขาจริงๆ ก็คือ อ.อากิระ โทริยามะ ชายผู้ให้กำเนิด Dragon Ball อีกหนึ่งการ์ตูนมังงะระดับตำนานที่หลายคนยกขึ้นหิ้ง ถึงขนาดเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า หากไม่มี Dragon Ball ก็คงไม่มี One Piece
ความสนุกสนาน ตื่นเต้น เรื่องราวการต่อสู้เหนือจินตนาการที่ได้หลังจากอ่าน Dragon Ball มันทำให้โอดะสถาปนาตัวเองกลายเป็นแฟนตัวยงของ อ.อากิระ นับตั้งแต่นั้น รวมทั้งซึบซับแนวคิดการเล่าเรื่องและเทคนิคการวาดลายเส้นต่างๆ
นอกจากนี้โอดะยังโปรดปรานแอนิเมะลูกครึ่งญี่ปุ่น-เยอรมัน Vicky the Viking รายการทีวีที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขาเริ่มมีความหลงใหลในเรื่องราวการผจญภัยของโจรสลัด อีกทั้งยังเปรียบเสมือนรากฐานทางความคิดที่ทำให้โอดะเกิดไอเดียในการสร้าง One Piece อีกด้วย
เมื่อวาดฝันไว้แล้วก็ต้องเดินหน้าลุยไปให้สุด ปี 1992 ในวัย 17 ปี เออิจิโระ โอดะ เปิดตัวเข้าสู่วงการนักเขียนการ์ตูนอาชีพด้วยผลงานชื่อ Wanted! การ์ตูนรวมเรื่องสั้น 5 ตอน ที่ส่งให้เขาแจ้งเกิดเดินหน้าคว้ารางวัลจากหลายสถาบัน
รวมถึงอันดับที่ 2 ของ Tezuka Awards ครั้งที่ 44 ที่จัดขึ้นและสนับสนุนโดย Shonen Jump สำนักพิมพ์หัวใหญ่เจ้าดังของญี่ปุ่น ซึ่งมอบเงินรางวัลให้เขากว่า 500,000 เยน มากกว่านั้นเขายังเริ่มเป็นที่จับตามองของเหล่าผู้มีอิทธิพลในวงการจนนำมาสู่โอกาสการทำงานกับนิตยสารรายสัปดาห์ของ Shonen Jump หลังดรอปจากมหาวิทยาลัยในปี 1993
งานแรกที่โอดะได้รับมอบหมายคือ การเป็นผู้ช่วย อ.ชิโนบุ ไคทานิ เจ้าของผลงานเรื่อง Suizan Police Gang ก่อนจะย้ายไปเป็นผู้ช่วย อ.มาซายะ โทคุฮิโระ ผู้วาดการ์ตูนเรื่อง Jungle King Tar-Chan และ Mizu no Tomodachi Kappaman หลัง อ.ชิโนบุ ลาออกจาก Shonen Jump และเมื่ออายุได้ 19 ปี เขาก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับ อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ ผู้วาดการ์ตูน ซามูไรพเนจร ก่อนที่จะได้รับรางวัล Hop Step Award สาขานักวาดการ์ตูนหน้าใหม่ในปีเดียวกัน
ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่โอดะเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานในฐานะผู้ช่วย ทำให้เขาได้รับอิทธิพลหลายๆ อย่างมาจากอาจารย์ทั้งสามท่านแบบไม่รู้ตัว อีกทั้งทักษะในการวาดการ์ตูนของเขาก็พัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น นอกจากจะทำงานเป็นผู้ช่วยแล้ว โอดะก็ได้เริ่มวาดการ์ตูนของตัวเองไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง God’s Gift for the Future (1993), Ikki Yako (1993), Monsters (1994) รวมถึง Romance Dawn ทั้งสองเวอร์ชันที่ภายหลังกลายเป็นปฐมบทที่ใครหลายคนยกให้เป็นตอนที่ 0 ของ One Piece ซึ่งได้ตีพิมพ์ใน Shonen Jump รายสัปดาห์ ช่วงปลายปี 1996
หลังผ่านอะไรมามากมายพอสมควร เมื่อเข้าสู่ปี 1997 เออิจิโระ โอดะ วัย 22 ปี ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นผู้ช่วยของ อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ เพื่อจะได้เริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักวาดการ์ตูนเต็มตัว และปลุกปั้น One Piece การ์ตูนเรื่องยาวของตัวเองอย่างจริงจัง
One Piece ตอนแรกถูกตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump รายสัปดาห์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ปี 1997 หรือวันนี้เมื่อ 23 ปีที่แล้ว ในชื่อ รุ่งสางแห่งการผจญภัย และไม่นานหลังจากที่มันได้ออกไปสู่สายตาผู้อ่าน เรื่องราวการผจญภัยในท้องทะเลของลูฟี่และผองเพื่อนก็ได้กลายเป็นการ์ตูนมังงะที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น พร้อมทำยอดขายถล่มทลายกว่าร้อยล้านเล่ม และเพียง 2 ปีหลังจากนั้น ตัวมังงะก็ถูกหยิบไปสร้างเป็นแอนิเมชันออกฉายทางทีวีในปี 1999 โดยมีบริษัท Toei Animation เป็นผู้ควบคุมการผลิต ซึ่งนับเป็นการต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
ทั้งนี้ กระแสความนิยมของ One Piece ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่ลดละ และขายดีเป็นเทน้ำเทท่าตลอดเวลาเกือบ 20 ปีนับตั้งแต่ตอนแรกถูกตีพิมพ์ เพราะในปี 2018 มันกลายเป็นการ์ตูนมังงะที่ได้ชื่อว่าขายดีมากที่สุด 11 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา
ปัจจุบัน One Piece ถูกตีพิมพ์ออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 985 ตอน (นับถึงวันที่ 22 กรกฎาคม ปี 2020) มีฉบับรวมเล่มทั้งหมด 96 เล่ม ได้รับการบันทึกสถิติจาก Guinness World Record ให้เป็นหนังสือการ์ตูนเรื่องยาวที่เขียนโดยผู้เขียนคนเดียวที่ถูกตีพิมพ์มากที่สุดในโลก อีกทั้งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็เพิ่งสร้างสถิติอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรและยากจะทำลาย กลายเป็นการ์ตูนมังงะที่ทำยอดขายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 470 ล้านเล่ม โดยเป็นการคำนวณยอดจาก 43 ประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ นอกจากหนังสือการ์ตูนและแอนิเมะแล้ว One Piece ยังถูกนำไปสร้างเป็นวิดีโอเกมและภาพยนตร์ภาคพิเศษที่ประสบความสำเร็จอีกมากมายนับไม่ถ้วน จนติดอันดับเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ทำเงินมากที่สุดด้วยจำนวน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ก็เป็นสิ่งที่ช่วยพิสูจน์ให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การ์ตูนเรื่องนี้ได้เข้าไปครอบครองพื้นที่ในหัวใจของผู้คนทั่วทั้งโลก
ด้านชีวิตส่วนตัวของ เออิจิโระ โอดะ เขาได้แต่งงานกับหญิงสาวนามว่า ชิอากิ อินะบะ อดีตนางแบบและนักแต่งคอสเพลย์ โดยทั้งคู่พบกันครั้งแรกที่งาน Shonen Jump Festa ปาร์ตี้และงานแสดงสินค้าประจำปีของนิตยสาร Shonen Jump เมื่อปี 2002 ซึ่งในวันนั้นเธอได้แต่งตัวคอสเพลย์เป็นนามิ ต้นหนเรือคนสำคัญของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เพื่อขึ้นโชว์บนเวที ก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจออกเดต แล้วจูงมือเข้าพิธีวิวาห์กันในปี 2004 และให้กำเนิดลูกสาวในปี 2006
ส่วนเรื่องกระบวนการทำงาน เราเชื่อว่าหลายคนโดยเฉพาะแฟนๆ ของ One Piece ต้องเคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงตารางงานสุดบ้าคลั่งของ เออิจิโระ โอดะ ที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในนักเขียนการ์ตูนมังงะที่ทุ่มเททำงานหนักมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ เพราะโอดะไม่เคยหยุดทำงาน เขาอุทิศทั้งแรงกายและแรงใจให้กับ One Piece การ์ตูนที่เปรียบเสมือนชีวิตของเขา
ในทุกๆ วันโอดะจะตื่นนอนเวลาตี 5 แล้วทำงานตลอดทั้งวัน มีช่วงพักกินข้าวกินน้ำบ้างเล็กน้อยก่อนจะทำงานต่อลากยาวไปยันตี 2 จึงเข้านอน จะเห็นได้ว่าโอดะแทบไม่ได้พักผ่อนเลย เขามีเวลานอนเพียง 3 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น อาจจะฟังดูโหดร้าย แต่หากไม่ทำแบบนี้ เขาก็จะทำงานเสร็จไม่ทันลงหนังสือรายสัปดาห์
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าโอดะมีวันหยุดงานบ้างหรือเปล่า คำตอบก็คือแทบจะไม่มีเลย วันหยุดงานเป็นเหมือนสิ่งของล้ำค่ายิ่งกว่าขุมทรัพย์ที่นานๆ จะได้พบเจอสักครั้งสำหรับโอดะ และถึงแม้ว่าเขาจะมีวันว่าง เขาก็มักจะเอาเวลาตรงนั้นไปนัดเจอพูดคุยกับเพื่อนๆ ในวงการ เพื่อปรึกษาหารือเรื่องการทำงานอีกอยู่ดี
เออิจิโระ โอดะ ทำงานตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ โดยมีตารางกำหนดไว้ชัดเจนว่าวันไหนต้องทำอะไรบ้าง วันจันทร์-พุธต้องวางเลย์เอาต์และคิดบทพูดของตัวละคร วันพฤหัสบดี-เสาร์เริ่มวาด ตัดเส้น และลงหมึก ส่วนวันอาทิตย์จะลงสีและเก็บรายละเอียดงานให้เรียบร้อย ซึ่งทั้งหมดเป็นการสร้างงานจากฝีไม้ลายมือล้วนๆ ไม่มีอะไรที่เป็นดิจิทัลเข้ามาข้องเกี่ยวทั้งสิ้น
จากการทำงานอันหนักหน่วงชนิดไม่กลัวตายของโอดะ (ครั้งหนึ่งเขาเคยตอบคำถามใน Shonen Jump ว่า หากเลือกเป็นตัวละครมังงะตัวใดตัวหนึ่งได้ เขาอยากเป็น นิโค โรบิน เพราะจะได้ใช้พลังงอกแขนออกมาช่วยวาด One Piece ให้เร็วขึ้นอีก 20 เท่า) ทำให้บางครั้งบางคราวตัวเขาก็เกิดล้มป่วยจนส่งผลให้บางสัปดาห์ไม่มี One Piece ออกมาให้คนได้อ่าน แต่เขาก็ไม่เคยหายหน้าหายตาไปนานเกิน 2 สัปดาห์ เนื่องจากรู้อยู่เต็มอกว่ามีแฟนๆ ทั่วโลกกำลังรออ่านงานของเขาอยู่
แน่นอนว่าการทุ่มเททำงานอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ ในสายตาใครหลายคนอาจมองว่าไม่ใช่เรื่องคุ้มค่าเท่าไรนัก หากมันต้องแลกมาด้วยสุขภาพอันย่ำแย่ แต่ในทางกลับกันมันก็นำมาซึ่งรายได้อันมหาศาล ในปี 2018 มีการเปิดเผยว่า เออิจิโระ โอดะ ได้เงินจากค่าต้นฉบับ ส่วนแบ่งจากการขายมังงะรวมเล่ม ส่วนแบ่งจากการทำแอนิเมะ ภาพยนตร์ภาคเดอะมูฟวี รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ มากมายจากการผลิตวิดีโอเกม และขายสินค้าที่ระลึกมากกว่า 3.1 พันล้านเยน หรือประมาณ 915 ล้านบาท ในแต่ละปี ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่โอเวอร์มาก
นอกจากสร้างความตกตะลึงให้กับคนทั้งโลกด้วยตัวเลขรายรับอันมหาศาลแล้ว ยังมีหนึ่งเหตุการณ์น่าประทับใจเกิดขึ้น ซึ่งมันมีจุดเริ่มต้นมาจากตัวของ เออิจิโระ โอดะ ที่หากใครยังจำกันได้ ในปีเดียวกันนั้นเองจังหวัดคุมาโมโตะ บ้านเกิดของเขา ได้มีการเปิดตัวรูปปั้นลูฟี่ เพื่อเป็นอนุสรณ์แสดงความขอบคุณต่อโอดะ ที่เขาบริจาคเงินช่วยพัฒนาฟื้นฟูเมืองมากกว่า 800 ล้านเยน หลังคุมาโมโตะได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในปี 2016 โดยโอดะได้แบ่งเงินบริจาคออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกบริจาคให้ในนามของ ‘ลูฟี่’ จำนวน 500 ล้านเยน และส่วนที่สองบริจาคในนามตนเองจำนวน 300 ล้านเยน
หากไม่นับความสนุกสนานจากเรื่องราวใน One Piece และความขยันขันแข็งในการทำงาน อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้แฟนๆ นับถือและรักในตัวโอดะมาก ก็เห็นจะเป็นเรื่องความเอาใจใส่และจิตใจอันงดงามของเขานี่แหละ ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าโอดะจะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในวงการนักวาดการ์ตูนมังงะได้ เขาต้องก้าวผ่านอุปสรรคมามากมาย และความสำเร็จทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ล้วนมาจากความพยายามฝึกฝน รวมถึงการทำงานอย่างหนัก หาใช่แต่พรสวรรค์เพียงอย่างเดียว
ปัจจุบันเนื้อเรื่องของ One Piece ได้เดินทางผ่านมากว่า 70% แล้ว ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะจบเรื่องราวทั้งหมดได้ และที่สำคัญคือ ‘วันพีช’ สมบัติล้ำค่าที่ โกลด์ ดี โรเจอร์ เจ้าแห่งโจรสลัดทิ้งเอาไว้เป็นปริศนารอคอยให้ใครสักคนมาค้นพบ เพื่อเปิดเผยมันออกมาให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ และคนที่จะไขความลับนี้ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากตัวผู้เขียนอย่าง อ.เออิจิโระ โอดะ เพียงคนเดียวเท่านั้น
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://en.wikipedia.org/wiki/Eiichiro_Oda#cite_note-WatsukiInterview-8
- https://onepiece.fandom.com/wiki/Eiichiro_Oda#cite_note-viking-16
- https://en.wikipedia.org/wiki/One_Piece#Manga
- https://soranews24.com/2015/10/09/one-piece-manga-creators-work-schedule-is-absolutely-insane/
- https://comicbook.com/anime/news/one-piece-creator-eiichiro-oda-rich-net-worth-money/
- https://comicbook.com/anime/news/dragon-ball-super-saiyan-4-new-form-anime-poster/