คำว่า ‘อีโก้’ ในบ้านเราใช้กันทั่วไปกับคนที่เรารู้สึกว่ามั่นใจในตัวเองในแบบที่ผิดๆ หยิ่งยโส ไม่ฟังใคร ไม่มีความเห็นใจใคร ไปจนถึงพฤติกรรมน่ารังเกียจอย่างการดูถูกความสามารถคนอื่นเพราะเชื่อว่าตัวเองดีที่สุด ส่วนในภาษากรีก คำว่า ‘อีโก้’ แปลว่า ‘ตัวฉัน’ หรือแปลให้ลึกกว่านั้นคือความเป็นตัวตนของเราเอง แต่ละคนจะมีตัวตนที่ชัดเจนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แต่ยังมีอีกหนึ่งคำที่น่าสนใจ นั่นคือคำว่า ‘ความแข็งแรงของอีโก้’ ซึ่งมองแวบแรกอาจรู้สึกไม่ดีเท่าไร คำนี้หมายความว่าคนที่อีโก้สูงจนน่ารังเกียจหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เลย ความแข็งแรงของอีโก้หมายถึงความยั่งยืน ความแกร่ง และความ ‘ล้มได้ก็ลุกได้’ ของตัวเราเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- นอกจากงานก็ไม่เหลือใครอีกแล้ว! ทำไมคนเรายิ่งเติบโตถึงยิ่ง ‘เหงา’
- ฉันนี่แหละ เก่งที่สุดในจักรวาลแล้ว! ทำไมคนไม่เก่งถึงชอบคิดว่าตัวเองเก่ง
- อยากทำทุกอย่างที่ไม่ใช่ทำงาน! อะไรก็น่าทำไปหมดเมื่อมีงานส่งพรุ่งนี้
ยิ่งอีโก้ของเราแข็งแรงเท่าไร เราจะยิ่งเป็นคนที่จิตใจแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น เราจะสามารถเรียนรู้และเติบโตจากเหตุการณ์ท้าทายในชีวิตหรือคนรอบข้าง ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเราและคนรอบข้าง และชีวิตของเรามีความหมายมากขึ้น
ในช่วงปีแรกๆ ของชีวิต คนที่เราปฏิสัมพันธ์ด้วยบ่อยๆ คือพ่อแม่ ผู้ปกครอง ใครก็ตามที่เลี้ยงดูเรามา ซึ่งพวกเขาจะเป็นคนตัดสินว่าเราจะโตขึ้นมามีอีโก้และความแข็งแรงของอีโก้ในแบบใด สิ่งนี้จะชี้วัดว่าเราสามารถรับมือกับความเครียดได้แค่ไหน สมองของเราถูกสร้างขึ้นเพื่อเรียนรู้และพัฒนาหาวิธีการตอบสนองความเครียดของตัวเอง
คนที่มีความแข็งแรงของอีโก้น้อยหรืออ่อนแอจะขาดความยืดหยุ่น ยึดติดกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกสบายใจ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยทางอารมณ์ พวกเขามักจะมีความคาดหวังกับทุกสิ่งแม้มันจะไม่มีทางเป็นจริง และยังยึดเอาความคาดหวังนั้นเป็นแรงผลักดันหลัก ซึ่งข้อเสียคือจะทำให้ความเครียดของร่างกายพุ่งขึ้นสูง เนื่องจากจิตใจพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวและวิตกกังวลว่าจะมีอะไรมาทำให้ไม่สบายใจหรือเปล่า
ในทางกลับกัน คนที่มีความแข็งแรงของอีโก้สูงจะเป็นคนที่ยืดหยุ่น มองโลกในแง่ดี รับมือกับความเครียดได้ดี อดทนกับความไม่สบายใจได้ และยิ่งความแข็งแรงมีมากเท่าไร พวกเขาจะสบายใจและสามารถแก้ปัญหาทุกสิ่งได้ดีมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาจะรักความท้าทาย เพราะมองว่าความท้าทายทำให้ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น
นอกจากเรื่องวิธีคิดของตัวเองแล้ว อีโก้ที่แข็งแรงยังช่วยให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างของเราแข็งแกร่งขึ้นด้วย ซึ่งวิธีการลับคมความแข็งแกร่งให้กับอีโก้ก็ไม่ยาก อาจต้องบังคับตัวเองสักเล็กน้อย แต่ถ้าทำได้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนอย่างแน่นอน
- ฝึกการรับรู้ความต้องการของตัวเอง ทำสิ่งที่เรารู้สึกมีความสุขโดยไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะคิดกับเราอย่างไร หรือคนอื่นจะคิดว่าตัดสินใจผิดหรือถูกอย่างไร เมื่อเราหยุดคิดมากเรื่องคนอื่น จิตใจของเราจะเป็นอิสระ
- ใส่ใจดูแลรูปลักษณ์ของตัวเอง เมื่อเราพรีเซนต์ตัวเองในรูปแบบที่ดีที่สุด ทั้งการแต่งตัว การแสดงออก บุคลิก อีโก้ของเราจะพุ่งสูงขึ้น เพราะเมื่อเราดูดี เราก็จะรู้สึกดีตามไปด้วย เราจะเดินอย่างเฉิดฉายและมั่นใจมากขึ้น
- ล้อมรอบตัวเองด้วยพลังงานบวก การอยู่กับคนที่แคร์เราจะช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ต้องยอมรับว่าบางครั้งพลังงานลบจากคนรอบตัวก็สามารถทำให้เราเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจไปในทางที่เราไม่ได้อยากเลือก เพราะเราอยากเอาใจคนอื่น ไม่อยากให้คนอื่นมาเกลียดเรา เมื่อเราล้อมรอบตัวเองด้วยผู้คนที่ดี ไม่มีใครมาตัดสิน เราก็จะตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเป็นตัวเองมากขึ้น
อ้างอิง: