วันนี้ (27 เมษายน) มีการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งที่ 2/2563 โดยมี อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกอย่างกว้างขวาง และมีมติให้เร่งนำเสนอคณะกรรมการนโยบายฯ (กพอ.) โดยเร็วที่สุด
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีรายละเอียดที่สำคัญๆ ดังนี้
- สาระสำคัญของโครงการ มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนา ‘เมืองการบินภาคตะวันออก’ ในพื้นที่ 6,500 ไร่ บริเวณสนามบินอู่ตะเภา โดยมี 6 กิจกรรมสำคัญ
- อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 (Passenger Terminal Building 3)
- ศูนย์ธุรกิจการค้าและการขนส่งภาคพื้นดิน (Commercial Gateway and Ground Transportation Centre)
- ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul)
- เขตประกอบการค้าเสรีและเขตธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Cargo Village or Free Trade Zone)
- ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ (Cargo Complex)
- ศูนย์ฝึกอบรมการบิน (Aviation Training Centre)
ทั้งนี้การลงทุนของโครงการรวมเป็นเงินลงทุนรวมประมาณ 2.9 แสนล้านบาท โดยรัฐจะได้ประโยชน์เพิ่มเติมคือ
- ภาษีอากรเพิ่มมากกว่า 60,000 ล้านบาท (ไม่นับรวมรายได้ภาษีทางอ้อมกับธุรกิจเชื่อมโยงนอกเมืองการบินภาคตะวันออก)
- เกิดการจ้างงานเพิ่ม 15,640 ตำแหน่งต่อปีในระยะ 5 ปีแรก
ขณะที่ความสำคัญของเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) วางยุทธศาสตร์ให้เมืองการบินภาคตะวันออกทำภารกิจสำคัญ 3 ประการคือ
- เป็น ‘สนามบินกรุงเทพฯ แห่งที่ 3’ เชื่อมสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิด้วยรถไฟความเร็วสูง
- เป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจเป้าหมาย โดยเฉพาะการเป็น ‘ศูนย์กลางอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว และ Logistics & Aviation’ ของ EEC
- เป็นศูนย์กลางของ ‘มหานครการบินภาคตะวันออก’ ที่จะครอบคลุมการพัฒนาพื้นที่เมืองประมาณ 30 กิโลเมตรโดยรอบสนามบิน (เมืองพัทยาถึงตัวเมืองระยอง) ซึ่งเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของการพัฒนาอีสเทิร์นซีบอร์ดที่ต้องการให้เกิดเป็นเมืองท่าและเมืองธุรกิจสำคัญของประเทศไทย โดยเข้าเชื่อมโยงเป็นส่วนขยายของกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปทางตะวันออกที่สามารถเชื่อมโยงกันได้สะดวกทั้งทางน้ำ (เรือและท่าเรือ) ทางบก (ทางด่วน รถไฟ และรถไฟความเร็วสูง) และทางอากาศ (สนามบิน)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์