“เจอน้องแล้ว แต่ยังเก็บเป็นความลับ”
“นักข่าวคนนี้ไร้จรรยาบรรณมาก ไลฟ์ได้ยังไง ไปถล่มกัน”
“ปิดหน้าหน่วยซีลด้วยค่ะ เป็นสื่ออย่าเอาแต่ขายข่าว”
ตั้งแต่ภารกิจการค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิตที่สูญหายไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 กระแสข่าวใหญ่นี้ก็แทบจะกลบข่าวอื่นๆ ทั้งหมด
สื่อทุกสำนักเกาะติดการรายงานสดวินาทีต่อวินาที เช่นเดียวกับคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ก็เฝ้าติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด
ในมุมหนึ่ง เราเห็นมุมที่สวยงาม การมอบกำลังใจ การสนับสนุน การร่วมมือของทุกภาคส่วนที่พร้อมอุทิศทุกอย่างเพื่อให้ภารกิจนี้ลุล่วง เพื่อให้ #13ชีวิตต้องรอด เพราะแม้น้องๆ จะเป็นคนแปลกหน้า แต่ก็เป็น #คนแปลกหน้าที่อยากเจอมากที่สุด
แต่อีกมุมหนึ่งเราได้เห็นมุมที่น่ากังวลและน่าหวาดหวั่น เราเห็นการปั้นข่าวเท็จ แชร์ข่าวมั่ว ตั้งตัวเป็นตำรวจโซเชียล ถล่มคนที่ไม่ได้ผิด หลอกเอาเงิน และอีกมากมาย
การด่วนสรุป รีบตัดสิน มือไว ใจร้อนของเราก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับใครหลายคน มากไปกว่านั้นคือสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคม
อย่าลืมนะครับ ผิดน่ะแก้ได้ แต่สิ่งที่แชร์ออกไป บางคนเข้าใจแบบนั้นไปแล้ว ใครจะรับผิดชอบ
บางคนเบื่อที่จะเสพข่าวที่ล้นเกินจำเป็น บางคนเครียดกับข้อมูลที่แยกไม่ออกว่าจริงหรือปลอม บางคนหัวร้อนหาเรื่องทะเลาะกันเอง
จากความหวังดีกลายเป็นความขัดแย้ง ดราม่า ตีกันทั้งๆ ที่เราทุกคนก็อยากให้น้องๆ ปลอดภัยเหมือนกัน
ในฐานะคนที่รายงานข่าวนี้ตั้งแต่วันแรก ยอมรับว่าช่วงแรกผมก็เป็นเหมือนกันครับ อยากรีบลงข่าว อยากรีบแชร์ มีกระแสอะไรมาก็ตื่นตระหนก เครียดกับข้อมูลที่ถาโถม
นักข่าวคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่บอกกับผมว่าแหล่งข่าวที่เขาให้น้ำหนักและเชื่อถือมากที่สุดคือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หรือคนที่อยู่ในที่ประชุมและมีตำแหน่งสูงกว่านั้น เช่น พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
หากข้อมูลไม่ได้มาจากคนเหล่านี้ โอกาสที่ข้อมูลจะคลาดเคลื่อนก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งพอเวลาผ่านไป ผมเห็นด้วยกับเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ท่อน้ำที่ไม่มีน้ำไหลก็ไม่ได้แปลว่าเครื่องสูบน้ำหยุดเดินเครื่อง การตัดไฟก็ไม่ได้แปลว่าเจ้าหน้าที่โดนไฟฟ้าช็อต รถพยาบาลจอดอยู่หน้าถ้ำก็ไม่ได้แปลว่าเราเจอเด็กๆ ทั้ง 13 ชีวิตแล้ว
มีหลายเหตุการณ์ที่ผู้ว่าฯ ต้องเป็นคนมาแก้ข่าว เพราะพวกเราคิดกันไปเอง
แม้แต่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งลงพื้นที่ก็ยืนยันเช่นกันว่าขอให้เชื่อข้อมูลจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเท่านั้น เพราะท่านเป็นศูนย์กลางของข้อมูลทุกอย่าง เป็นผู้บัญชาการภารกิจนี้ ทุกหน่วยงานจะรายงานสถานการณ์ขึ้นตรงต่อท่านทุกวัน
พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าแหล่งข่าวอื่นๆ ไม่น่าเชื่อถือนะครับ เพียงแต่ท่ามกลางข้อมูลที่มาจากหลายทิศหลายทาง ส่วนตัวแล้วการมีหลักยึดไว้ มันก็มั่นคงกว่า
พอตั้งหลักได้ การทำงานของผมและทีมงานก็มั่นคงขึ้น เราไม่หวั่นไหวกับกระแสข่าว เลือกเฉพาะแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ใจเย็นๆ เช็กข้อมูลให้ถูกต้อง แน่ใจแล้วค่อยรายงานออกไป
ความเครียดลดลง กลายเป็นความมั่นใจ
สำหรับคนที่เสพข่าวถ้ำหลวงมาหลายวันแล้วเริ่มสับสนกับข้อมูลที่มากมายเหลือเกิน นี่คือคาถาที่ผมใช้กับตัวเอง คุณจะลองนำไปใช้ดูก็ได้ครับ
อย่าเชื่อ ถ้ายังไม่ชัด
อย่าแชร์ ถ้ายังไม่ชัวร์
อย่าโชว์ ถ้ายังไม่เชี่ยวชาญ
เอาใจช่วยน้องๆ ทั้ง 13 ชีวิตด้วยการเสพข่าวอย่างมีสตินะครับ
นครินทร์ วนกิจไพบูลย์
บรรณาธิการบริหาร
29 มิถุนายน 2561
ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai