THE STANDARD POP ขอพาผู้อ่านไปดื่มด่ำกับผลงานการสร้างสรรค์น้ำหอมผ่านรูปแบบของนิทรรศการ Edition de Parfums Frederic Malle
เพราะเป็นน้ำหอมนิชแบรนด์ระดับลักชัวรี หลายคนอาจยังไม่คุ้นกับชื่อ Frederic Malle มากนัก แต่ถ้าบอกว่าคุณตาของเขาคือผู้ก่อตั้งน้ำหอม Christian Dior และคุณแม่ของเขาทำงานในวงการแฟชั่นของ Christian Dior หลายคนน่าจะพอเดาได้ว่าทำไมเขาถึงเลือกก่อตั้งแบรนด์น้ำหอม Edition de Parfums Frederic Malle ขึ้นมา สิ่งที่คาใจเขามาตลอดตั้งแต่ที่เริ่มสนใจวงการน้ำหอมลักชัวรีคือ เขาสังเกตว่าไม่เห็นจะมีแบรนด์ไหนเลยที่เชิดชูชื่อของนักปรุงน้ำหอมให้เป็นที่รู้จักและโดดเด่นมากกว่าชื่อแบรนด์
ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์เพื่อจะให้เกียรตินักปรุงน้ำหอมที่มีฝีมือและความสามารถ โดยยึดคอนเซปต์ที่ไม่ต่างจากการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ โดยใช้แนวทางที่คล้ายคลึงกับการเป็นผู้จัดพิมพ์หรือบรรณาธิการในการสร้างคอลเล็กชันน้ำหอม Editions de Parfums Frederic Malle ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่จะเป็นเหมือน ‘สำนักพิมพ์’ สำหรับน้ำหอม โดยเขาทำหน้าที่เป็นเหมือนบรรณาธิการที่ได้เชิญนักปรุงน้ำหอม (หรือเปรียบดั่ง ‘นักเขียน’ ในวงการสื่อสิ่งพิมพ์) ที่มีความสามารถและมีชื่อเสียงมาร่วมกันสร้างสรรค์น้ำหอม โดยให้พวกเขามีอิสระในการสร้างสรรค์โดยไม่ถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดทางการตลาด
ซึ่งครั้งนี้ Frederic Malle ได้ทำงานร่วมกับ Jean-Claude Ellena นักปรุงและนักพัฒนาน้ำหอมชื่อดังระดับโลก ที่เติบโตมาจากครอบครัวนักปรุงน้ำหอมจากเมืองกราสส์ในประเทศฝรั่งเศส เขาได้นิยามน้ำหอมที่รังสรรค์ไว้ว่า ‘บทกวีแห่งความทรงจำ’ หรือ ‘Poetry of Memory’ การทำงานร่วมกันระหว่าง Frederic Malle และ Jean-Claude Ellena ถือเป็นการรวมตัวของวิสัยทัศน์ทางศิลปะและความชำนาญทางเทคนิคในการสร้างสรรค์น้ำหอมที่ไม่เพียงแต่มีกลิ่นหอมที่โดดเด่น แต่ยังถ่ายทอดเรื่องราว อารมณ์ และปรัชญาของผู้สร้างออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ผลงานของพวกเขาสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์ในการสร้างน้ำหอมที่ยังคงเป็นที่จดจำและชื่นชอบในน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์และไม่ซ้ำใคร จึงเห็นได้ว่าแนวทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอน้ำหอมในมุมมองที่แตกต่างและเป็นนวัตกรรมใหม่ แต่ยังเป็นการยกระดับน้ำหอมให้เป็นงานศิลปะและการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่มีความหมายและคุณค่ามากขึ้น
สำหรับกลิ่นใหม่ล่าสุดที่สร้างสรรค์โดย Jean-Claude Ellena มีชื่อกลิ่นว่า Heaven Can Wait หากสังเกตดีๆ จะพบว่าบนขวดน้ำหอมจะมีการเชิดชูชื่อของนักปรุงน้ำหอมขึ้นก่อน นั่นคือ Jean-Claude Ellena ตามด้วยชื่อกลิ่นน้ำหอม Heaven Can Wait และปิดท้ายด้วยชื่อแบรนด์ Editions de Parfums Frederic Malle สำหรับแนวกลิ่นของน้ำหอม Heaven Can Wait นั้นเป็นการผสานกลิ่นจากกานพลู, พริกเมนโต, ชะมดต้น, เมล็ดแครอต, ดอกไอริส, หญ้าแฝก, ลูกพีช และลูกพรุน เข้ากับความสดชื่นและหอมหวาน สร้างกลิ่นที่ซับซ้อนและไม่สามารถจำกัดคำอธิบาย โดยได้แรงบันดาลใจจากความเรียบง่ายและความงดงามของผู้หญิงชาวปารีส ผลลัพธ์คือกลิ่นที่เป็นเหมือนอ้อมกอดอบอุ่น สื่อถึงความเป็นส่วนตัวและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ทำให้น้ำหอมนี้เป็น ‘สรวงสวรรค์ส่วนตัว’ ที่น่าค้นหาและมีเสน่ห์เกินห้ามใจ
น้ำหอม Heaven Can Wait โดย Jean-Claude Ellena มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 50 ml ราคา 10,000 บาท และ 100 ml ราคา 13,000 บาท สามารถพบได้ที่บูติกและเคาน์เตอร์ Editions de Parfums Frederic Malle ทุกสาขาในประเทศไทย รวมถึง Atelier De Prestige EMQUARTIER ชั้น G, ICONSIAM ชั้น M และ Beauty Hall Siam Paragon ชั้น M
ภาพ: Courtesy of Brand