วันนี้ (3 กรกฎาคม) อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต. ) ระบุว่า ขอสื่อมวลชนอย่าใช้คำว่า ‘เลื่อน’ การรับรองผลการเลือก สว. ทั้ง 200 คน แต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จจึงจะประกาศรับรอง
อิทธิพรยังยอมรับว่า วันนี้จะยังพิจารณาคำร้องต่างๆ ไม่เสร็จ แต่หากยังไม่เสร็จก็มีหลักที่จะสามารถประกาศรับรองได้ หากเห็นว่าผลการเลือก สว. มีความสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนสาเหตุที่ยังไม่สามารถรับรอง สว. ได้ในเวลานี้ อิทธิพรกล่าวว่า ตามแผนการที่จะประกาศรับรองวันนี้ จะประกาศก็ต่อเมื่อ กกต.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องต่างๆ แล้วเสร็จ ดังนั้นจึงไม่ใช่การเลื่อน แต่ยังไม่เสร็จ เมื่อทำเสร็จแล้วจะประกาศ
เมื่อสื่อมวลชนถามว่า สัปดาห์หน้าจะแล้วเสร็จและสามารถประกาศรับรองได้หรือไม่ ประธาน กกต.ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า หลังจากการเลือก สว. ระดับประเทศ สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจำนวน 614 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องขาดคุณสมบัติ ขอให้ลบชื่อ คิดเป็น 65% เรื่องความไม่สุจริต 14% ส่วนที่เหลือเป็นคำร้องว่ามีการว่าจ้างลงสมัคร เรียกรับให้ลงคะแนน ขณะที่การร้องเรียนว่ามีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองช่วยเหลือ มีอยู่ 3%
โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมา กกต.ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคำร้องมีจำนวนมาก และมีเพิ่มเรื่อยๆ ซึ่งมีกระแสข่าวว่า กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือก สว. ได้ในต้นสัปดาห์หน้า สอดคล้องกับกระแสข่าวว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเตรียมความพร้อมในการรับรายงานตัว สว. ชุดใหม่ ในช่วงกลางสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะรับรองผลไปก่อนแล้วสอยทีหลังนั้น มีรายงานว่า การจะเอาผิดผู้สมัครนั้น จำเป็นต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดมากพอที่จะสั่งเอาผิดได้ในทันที ต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน หาหลักฐานเพิ่มเติม ประสานหน่วยงานภายนอกที่มีความเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น
ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบการเลือกตั้งหรือเลือก สว. ก็ตาม ไม่ได้มีกฎหมายระบุชัดว่าให้ทำให้เสร็จภายในระยะเวลากี่วัน กี่เดือน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว กกต.จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี
