เลขาธิการ กกต. ยืนยันว่า ได้ใช้สูตรเดียวตามกฎหมาย หลังจากมีประเด็นการเสนอสูตรอื่นเพื่อคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พร้อมเตรียมเอาผิดอาญากับผู้สมัคร ส.ส. ที่ขาดคุณสมบัติ
วันนี้ (30 เม.ย.) พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยถึงการเสนอสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 3 สูตร ให้ กกต. พิจารณาว่า กรณีดังกล่าวเป็นการที่สำนักงาน กกต. เองรวบรวมความเห็นทางสังคมที่มีต่อสูตรคำนวณ เพื่อนำมาพิจารณาหาเหตุและผลว่าทำไมถึงแตกต่างกัน ซึ่งไม่ใช่การเสนอความเห็นของสำนักงาน กกต. เพื่อให้ กกต. เลือกสูตรใดสูตรหนึ่งอย่างที่เข้าใจกันผิด
“ยืนยันว่าการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อมีอยู่แล้วสูตรเดียว ตามข้อกฎหมายเท่านั้น และเป็นอำนาจของ กกต. ที่จะต้องคำนวณตามกฎหมายอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเลือกสูตรอื่นๆ และสำนักงาน กกต. ก็ไม่ต้องเสนอสูตรให้ กกต. อีก โดยวิธีการคำนวณจะทราบพร้อมกันเมื่อ กกต. ประกาศรับรองผลเลือกตั้งแล้ว”
พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ยังกล่าวถึงการเตรียมดำเนินคดีกับผู้สมัคร ส.ส. ที่ถูกศาลฎีกา สั่งถอนชื่อออกจากการสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากถือหุ้นในกิจการสื่อฯ ว่า โดยสำนักงาน กกต. จะเสนอให้ กกต. พิจารณาเพื่อดำเนินคดีอาญาทุกรายที่ศาลมีคำสั่งแล้ว ไม่เพียงเฉพาะกรณีของผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดสกลนคร ที่ศาลฎีกามีคำสั่งไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคมเท่านั้น กรณีนี้เข้าข่ายฐานความผิดตามมาตรา 151 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. หากรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ แต่ยังฝ่าฝืนมาลงสมัครอีกจะมีโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี และปรับสูงสุด 200,000 บาท
ส่วนกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องขอให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ 11 คน ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนนั้น เรื่องอยู่ระหว่างส่งคำร้องให้กลุ่มงานสอบสวน ไปพิจารณาว่ามีมูลเพียงพอหรือไม่ หากมีมูลก็จะเสนอให้ กกต. ตั้งกรรมการไต่สวนขึ้นมาดำเนินการตามขั้นตอน ก่อนเสนอต่อ กกต. และส่งเรื่องให้ศาลดำเนินคดีต่อไป
ภาพ: Getty images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: