×

ประธาน กกต. เผย มี 27 คำร้องเข้าข่ายฮั้วเลือก สว.-อยู่ระหว่างพิจารณาคำร้อง นายก อบจ.ลำพูน หาเสียงใส่ร้ายคู่แข่ง

โดย THE STANDARD TEAM
20.03.2025
  • LOADING...

(20 มีนาคม) อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการฮั้วเลือกสว.ที่หลายฝ่ายอยากให้ดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยนั้นว่า กกต.ดำเนินการไม่ชักช้า จะพยายามรีบเร่ง ซึ่งกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานเริ่มตั้งแต่รับคำร้องหลังการเลือกระดับอำเภอเมื่อ 9 มิถุนายน 2567 แต่ต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยว เปิดโอกาสให้ได้รับทราบและชี้แจงข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน ซึ่งการตรวจสอบใช้เวลาเพราะเกี่ยวข้องกับหลายคน ถ้ารีบสรุปก็จะไม่ได้รับความยุติธรรม หรือถ้าเร่งดำเนินการแล้วไม่ครบถ้วนอาจจะต้องสอบเพิ่มเติม 

 

ส่วนกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบกรณีฟอกเงินเลือกตั้งสว.จะทำให้การทำงานของกกต.ล่าช้าหรือไม่ อิทธิพรกล่าวว่า อำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย สว. เป็นหน้าที่ของกกต. การกระทำใดที่เป็นความผิดตามกฎหมายอื่นก็เป็นหน้าที่หน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่รักษากฎหมายจะไม่เกี่ยวกัน 

 

ทั้งนี้คำร้องการเลือกสว.ฝ่าฝืนตามมาตรา 77 (1) หรือที่เรียกว่าฮั้ว มีผู้มาร้องต่อ กกต. ทั้งสิ้น 220 เรื่อง และ กกต. จะรับจากดีเอสไออีก 3 เรื่อง เมื่อรับมาแล้วก็ตั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นคณะสืบสวนไต่สวนร่วมกับ กกต. ทำให้มั่นใจว่ากระบวนการไม่ได้เริ่มต้นจากหนึ่ง แต่จะดำเนินการต่อเนื่องจากของดีเอสไอ

 

อิทธิพรระบุด้วยว่า คำร้อง 220 เรื่อง มีเรื่องที่จะเข้าข่ายการฮั้ว 27 เรื่อง แต่เรื่องยังมาไม่ถึงที่ประชุม กกต. เมื่อมาถึงแล้ว กกต. ก็สามารถพูดได้ว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอในการตัดสินหรือไม่ และจะต้องสอบสวนต่อเพราะถ้าเป็นการฮั้วเป็นกระบวนการใช้คนเยอะ ต้องใช้เวลาแต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ช้า เพราะ กกต. กำหนดกรอบเวลาไว้แล้ว ส่วนเรื่องการกันบุคคลไว้เป็นพยานหรือขอความคุ้มครอง ขณะนี้ยังไม่มี

 

อยู่ระหว่างพิจารณาคำร้อง นายก อบจ.ลำพูน หาเสียงใส่ร้ายคู่แข่ง 

 

ส่วนกรณี วีระเดช ภู่พิสิฐ นายก อบจ.ลำพูน พรรคประชาชน ถูกร้องเรียน อิทธิพรกล่าวว่า ขณะนี้มี 1 คำร้อง ตามมาตรา 66 และมาตรา 65 (5) ซึ่งเรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน กกต.ลำพูน หากเห็นว่ามีข้อเท็จจริง มีหลักฐานเบื้องต้นเพียงพอ ก็จะรับเป็นสำนวน และเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ตามระเบียบ และให้ ผอ.กกต.ประจำจังหวัด ให้ความเห็นประกอบ ก่อนจะส่งเข้ามายัง กกต.ส่วนกลาง แต่ถ้าหากเห็นว่าคำร้องดังกล่าวมีข้อมูลไม่เพียงพอ แล้วจะยกคำร้องก็ต้องเสนอมายังที่ประชุม กกต.

 

เมื่อถามว่า คำร้องที่ดังกล่าวระบุพฤติการณ์ของ วีระเดช เป็นการหาเสียงใส่ร้ายคู่แข่งหรือไม่ อิทธิพรระบุว่า ทำนองนั้น แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นเรื่องร้องเรียน เพราะต้องให้อิสระในการทำงานทุกขั้นตอน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาได้ไม่เกิน 1 ปี เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน 

 

ทั้งนี้ ได้ประกาศผลรับรองทั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ. ประกาศทั้งหมดแล้ว เว้น 2 ส่วนที่ต้องเลือกตั้งใหม่ ส่วนแรกคือที่มีการแจกใบส้ม จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดตราด ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์แต่ยังมาสมัครรับเลือกตั้ง และอีก 3 จังหวัด จังหวัดตรัง, สุพรรณบุรี และชุมพร เนื่องจากมีผู้สมัครคนเดียว ซึ่งได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 10 และได้คะแนนเสียงน้อยกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising