ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยอ้างอิงในอัตราที่ชะลอลงเหลือ 0.50% สู่ระดับ 2% ในการประชุมวันนี้ (15 ธันวาคม) ตามคาดการณ์ของตลาด พร้อมระบุว่าจะเริ่มลดขนาดงบดุลลงโดยเฉลี่ย 1.5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนในเดือนมีนาคมปีหน้าไปจนกว่าจะสิ้นสุดไตรมาสที่ 2
ECB ยังระบุด้วยว่า ธนาคารจะมีการเผยแพร่รายละเอียดที่มากขึ้นของแผนการลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับทิศทางนโยบายการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปในเดือนกุมภาพันธ์
การชะลอความเร็วในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ECB เกิดขึ้นหลังจากสถานการณ์เงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายนของยูโรโซนเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง แม้ว่าตัวเลขจะยังอยู่ในระดับสูงถึง 10% ก็ตาม โดยการชะลอความเร็วดังกล่าวยังสอดคล้องกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางสวิส ที่ต่างก็ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.50% เช่นกันในการประชุมรอบล่าสุด
Frederik Ducrozet นักวิเคราะห์ของ Pictet Wealth Management กล่าวว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ECB รวมถึงธนาคารกลางขนาดใหญ่อื่นๆ เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด โดยส่วนหนึ่งที่ทำให้ ECB มีท่าทีสายเหยี่ยวต่อนโยบายการเงินที่ลดลง เกิดจากการที่เครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มสะท้อนว่าภาวะถดถอยในยูโรโซนอาจไม่รุนแรงเหมือนที่คาดกันไว้ก่อนหน้านี้ และบางประเทศอาจหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจหดตัวได้สำเร็จในช่วงฤดูหนาวนี้
“เงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงค้างอยู่ในระดับสูงกว่าสหรัฐฯ แต่นั่นเป็นเพราะ ECB ยังไม่เริ่มการปรับนโยบายการเงินในรูปแบบอื่นๆ เข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงการปรับลดงบดุล” Ducrozet กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ความมั่งคั่งจากหุ้นของชาวอเมริกันหายไปกว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวหลังวิกฤตโควิด
- Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด 0.75% พร้อมส่งสัญญาณขึ้นต่อลากยาวถึงปีหน้า
- นักวิเคราะห์ชี้พิษนโยบาย Fed เป็นเหตุทำตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน
อ้างอิง: