นักช้อปต้องรู้! ห้างสรรพสินค้า-แบรนด์ดัง จัดโปรโมชัน-ส่วนลด ขานรับมาตรการ ‘Easy e-Receipt 2567’ ลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาท

เช็กห้างสรรพสินค้า-ร้านค้าแบรนด์ดัง จัดโปรโมชัน-คูปองส่วนลด เอาใจนักช้อป ขานรับมาตรการ ‘Easy e-Receipt 2567’ รัฐบาลเร่งหนุนการจับจ่ายภายในประเทศ ใช้ลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาท

สำหรับมาตรการ ‘Easy e-Receipt’ รัฐบาลตั้งใจหนุนการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปี 2567 โดยผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น

เช็กห้างสรรพสินค้าและแบรนด์ดังที่เข้าร่วม

เริ่มตั้งแต่ ‘เดอะมอลล์ กรุ๊ป’ ขานรับนโยบายรัฐบาล ยกทัพแบรนด์ดังจัดโปรโมชันที่เดอะมอลล์ทุกสาขา ตามด้วยเอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ หลังจากที่ซื้อสินค้าแล้วให้ลูกค้านำใบเสร็จพร้อมบัตรประชาชน มาแสดงที่จุดออกใบกำกับภาษีในวันที่ซื้อสินค้า ในกรณีออกใบกำกับภาษีแทนบุคคลอื่น นำใบเสร็จมาแสดงและกรอกรายละเอียดการออกใบกำกับภาษีตามแบบฟอร์มในวันที่ซื้อสินค้าและบริการเท่านั้น สามารถรวบรวมใบเสร็จในการออกใบกำกับภาษีได้ รวมถึงรับเงินคืนและรับคูปองเงินสดเพิ่ม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ด้านสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ จัดแคมเปญ ‘Easy e-Receipt 2024 ช้อปเพลิน เกินคุ้ม’ เมื่อช้อปและแสดงใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) จากร้านค้าที่เข้าร่วมรายการในแต่ละศูนย์การค้าครบ 10,000 บาทขึ้นไป สามารถรวบรวมใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่เกิน 3 ใบจากร้านค้าภายในศูนย์การค้าเดียวกัน และเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด นำมาแลกรับบัตรกำนัล Siam Gift Card มูลค่า 800 บาท สำหรับนำไปใช้ซื้อสินค้า ตั้งแต่ 1,600 บาทขึ้นไป โดยแบ่งเป็นสยามพารากอน 800 สิทธิ์, สยามเซ็นเตอร์ 400 สิทธิ์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ 300 สิทธิ์

ตามด้วยศูนย์การค้าไอคอนสยาม ลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมรายการภายในห้างสรรพสินค้า รวมถึงสยาม ทาคาชิมายะ และไอซีเอส ครบ 10,000 บาทขึ้นไปภายในวันเดียวกัน สามารถแลกรับ Siam Gift Card มูลค่า 600 บาท เฉพาะลูกค้าสัญชาติไทย และเป็นสมาชิก VIZ ที่มี ONESIAM SuperApp หลังจากซื้อสินค้าแล้วขอรับใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) รวบรวมและแสดงใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายในวันนั้น

ขณะที่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล 39 สาขาทั่วประเทศ อัดโปรโมชั่นและแคมเปญสุดคุ้มงแต่วันนี้ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อช้อปสินค้า-บริการ และรับประทานอาหารตามเงื่อนไขที่กำหนดสูงสุด 50,000 บาท รับเงินคืนภาษีสูงสุด 17,500 บาท* เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยลูกค้าสามารถขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt ในวันที่ซื้อสินค้าและบริการเท่านั้น (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท ร้านค้า ธนาคาร และรัฐบาล กำหนด, ใช้ลดหย่อนภาษีปี 2567 (ยื่นในเดือนมีนาคม 2568) )

ขณะเดียวกันได้ออกดีลากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ วันนี้ถึงวันที่ 7 มกราคม 2567 เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นแลกรับเครดิตเงินคืน สูงสุด 18%* ,ผ่อน 0%* สูงสุด 24 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืน (เฉพาะประเภทสินค้าที่ร่วมรายการ) , สะสมและแลกคะแนน The 1 สูงสุด X4*

แลกดีมีคืน แลกคะแนน The 1 ทุก 100 คะแนน รับคืน 20 คะแนน* พร้อมช้อปผ่าน Central The 1 Credit Card รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10%* ไม่ต้องแลกคะแนน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรแบบชำระเต็มจำนวน ตามเงื่อนไขที่กำหนด (รับเครดิตเงินคืน 10% เฉพาะร้านอาหาร และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3.3% เฉพาะหมวดช้อปปิ้งที่ร่วมรายการที่ร้านค้าในศูนย์การค้าเซ็นทรัล) สิทธิ์มีจำนวนจำกัด ตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติม จากสื่ออื่นๆ ของบริษัทฯ

ส่วนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล นำแบรนด์สินค้าจัดโปรโมชันพร้อมให้คูปองส่วนลดจากห้างสูงสุด 4,000 บาท โดยเปิดให้ลูกค้าแสดงใบเสร็จรับเงินที่ซื้อสินค้าภายในวัน พร้อมบัตรประชาชน รับใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่จุดบริการลูกค้า สาขาที่ซื้อสินค้า ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 ที่เซ็นทรัลทุกสาขา

พร้อมกับโรบินสัน ก็ได้ให้ส่วนลดจากห้างสรรพสินค้าสูงสุดถึง 4,000 บาทเช่นเดียวกัน โดยลูกค้าแสดงใบเสร็จรับเงินที่ซื้อสินค้าภายในวัน พร้อมบัตรประชาชน รับใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่จุดบริการลูกค้า สาขาที่ซื้อสินค้า พร้อมจัดโปรโมชัน คูปองส่วนลดจากห้างสูงสุด 4,000 บาท และรับสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการที่โรบินสันทุกสาขา

และท็อปส์ ในวันที่ซื้อสินค้าสามารถแสดงใบเสร็จพร้อมบัตรประชาชนที่จุดบริการลูกค้า เพื่อออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบภายในวันที่ซื้อสินค้า ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะส่งไปยังอีเมลที่ลงทะเบียนไว้

รวมถึงร้านค้าในเครือ CMG จากแบรนด์ดัง เช่น CLARINS, THREE, Lee, FILA, Crocs, G-SHOCK, Dyson และ Calvin Klein ใช้สิทธิลดหย่อนคืนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท สามารถออกใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ได้ทั้งทางร้านค้าและออนไลน์

ด้านฝั่งซูเปอร์มาร์เก็ต Big C และร้านค้าในเครือ สามารถขอใบกำกับภาษี e-Tax ได้ที่จุดบริการลูกค้าภายในวันที่ซื้อสินค้า โดยเตรียมบัตรประชาชนและใบเสร็จรับเงินภายในวัน พร้อมแจ้งอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ที่จุดบริการลูกค้า รอรับใบกำกับภาษี e-Tax ภายในวันที่ซื้อสินค้า

เช่นเดียวกับ Lotus’s สามารถออกใบกำกับภาษีแบบ e-Tax ได้ที่จุดบริการลูกค้า ภายในวันที่ซื้อสินค้าเท่านั้น โดยลูกค้าจะได้รับใบกำกับภาษี e-Tax ทางอีเมลตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ กรณีข้ามวันไม่สามารถออกใบกำกับภาษี e-Tax ได้ทุกกรณี ส่วนโลตัส ช้อปออนไลน์ สามารถกรอกข้อมูลในขั้นตอนการสั่งซื้อ โดยใบกำกับภาษีจะส่งให้ทางอีเมลหลังจากจัดส่งสำเร็จ

รวมถึงแม็คโคร ลูกค้าสมาชิกแม็คโครลงทะเบียนขอทำ Auto e-Tax Invoice ก่อนการซื้อสินค้า จากนั้นเมื่อชำระค่าสินค้าแล้วจะได้รับใบส่งสินค้าแทนใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี เพื่อเป็นหลักฐานในการนำสินค้าออกจากสาขา แต่กรณีที่ลูกค้าไม่มีบัตรสมาชิกแม็คโคร หรือกรณีลูกค้ามีบัตรสมาชิกแม็คโครแต่ไม่ได้ขอทำ Auto e-Tax Invoice ลูกค้าจะต้องนำใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี พร้อมบัตรประชาชนตัวจริง ขอออก e-Tax Invoice ที่จุดบริการลูกค้าภายในวันเดียวกัน

ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท ด้วยการขอใบกำกับภาษีที่หน้าร้านด้วย 3 ขั้นตอน ตั้งแต่ซื้อสินค้า ชำระเงิน โดยแจ้งพนักงานว่าขอใบกำกับภาษี ตามด้วยเสียบบัตรประชาชนและกดเบอร์โทรศัพท์ ก็จะได้ใบกำกับภาษีนำไปลดหย่อนได้เลย

และ HomePro ในช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ สามารถเข้าเว็บไซต์ดูขั้นตอนการจ่ายเงินและเลือกรายการที่อยู่ออกใบกำกับภาษี การซื้อสินค้าจำนวน 30,000 บาทแรก โดยออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษ หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ส่วนการซื้อสินค้าเพิ่มอีกจำนวน 10,000 บาท จะได้เฉพาะใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)

ทั้งนี้ ค่าซื้อสินค้าและค่าบริการเมื่อรวมกันแล้วสามารถหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท โดยกลุ่มสินค้าที่ไม่ร่วมมาตรการ Easy e-Receipt ประกอบด้วย

สุรา เบียร์ และไวน์
ยาสูบ
รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการ และผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567
ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย