บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยวันนี้ (28 พฤศจิกายน) ว่า บริษัทได้ลุยผลิตรถยนต์ไฟฟ้า MINE SPA1 เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จำกัด และลูกค้าที่จองไว้ และเตรียมจะนำเรือไฟฟ้าออกให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นไป พร้อมกับเตรียมรับรายได้ผลิตภัณฑ์ใหม่จากนวัตกรรมน้ำมันปาล์ม ‘กรีนดีเซลและ PCM’
บริษัทยังเตรียมใช้เงินลงทุนในปี 2563 ตามแผนดำเนินการที่ 7,400 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 5,000 ล้านบาท จะถูกใช้เพื่อเดินหน้าโครงการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ที่ถึงแม้กำหนดการจะเสร็จล้าช้าจากแผนงานเดิม แต่ EA ก็ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2563
โดยในระหว่างนี้ บริษัทสามารถใช้ฐานการผลิตที่มีอยู่แล้วของบริษัทย่อย Amita Technologies Inc., ไต้หวัน ผลิตแบตเตอรี่ให้เพื่อนำมาใช้ในโครงการรถยนต์ไฟฟ้า MINE SPA 1 และเรือไฟฟ้าตามแผนที่วางไว้
สำหรับกำหนดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า MINE SPA1 ทาง EA เชื่อว่าจะสามารถทยอยส่งมอบรถยนต์ให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จำกัด จำนวน 3,500 คัน และลูกค้ารายอื่นๆ ตั้งแต่ไตรมาส 2/63 เป็นต้นไป เช่นเดียวกับการผลิตเรือไฟฟ้าที่น่าจะแล้วเสร็จและเริ่มให้บริการแก่ประชาชนได้ในช่วงต้นปี 2563
ส่วนโรงงานประกอบรถยนต์ที่กำลังก่อสร้างก็จะสามารถรองรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งถยนต์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้า (ภายใต้บริษัทย่อย ‘บริษัท อีวีนาว จำกัด’) ขณะที่โรงงานผลิตกรีนดีเซลและสารเปลี่ยนสถานะ (หรือ PCM) ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์มที่มีมูลค่าเพิ่มขั้นสูงและเป็นลิขสิทธิ์ของกลุ่มบริษัทยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ซึ่งจะสามารถส่งออกและทดแทนการนำเข้าได้
อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทางเลือก กล่าวว่า
“ในส่วนของธุรกิจใหม่ทั้งหมด ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า กรีนดีเซล PCM รวมถึงแบตเตอรี่ จะเริ่มรับรู้รายได้ในปีหน้า และเมื่อผนวกกับการที่โรงไฟฟ้าทั้งหมดสามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลัง 664 เมกะวัตต์ และประมาณการการเติบโตของธุรกิจไบโอดีเซลที่จะมีขึ้นจากการที่รัฐบาลส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซลจาก 7% เป็น 10% จึงจะส่งผลให้รายได้และกำไรในปี 2563 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2562”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
