ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานปูทางความพร้อมประเทศไทยสู่สังคมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ค. 2562) บริษัทลูกอย่าง ‘พลังงานมหานคร (EA Anywhere)’ ได้ประกาศเซ็น MOU ความร่วมมือกับ 4 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ในแต่ละอุตสาหกรรมธุรกิจประเทศไทย เพื่อขยายโครงการสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าให้ได้ครบ 1,000 แห่งภายในปีนี้
4 พันธมิตรที่ EA ประกาศเซ็น MOU เดินหน้าสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า EA Anywhere สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) > ติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าที่ร้านสะดวกซื้อ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ จำนวน 21 สาขา (เป้าหมายใหญ่สุดอาจจะเพิ่มไปถึง 711 สาขาได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า)
2. บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด > ติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าที่สถานีบริการน้ำมัน ‘คาลเท็กซ์’ จำนวน 30 แห่ง (คิดเป็นสัดส่วน 8% ของจำนวนจุดบริการน้ำมันของคาลเท็กซ์ ประเทศไทยในปัจจุบันที่ 360 แห่ง)
3. บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) > ติดตั้งหัวจ่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าจำนวน 3 หัวในห้างสรรพสินค้าของโรบินสัน 15 แห่ง (จากทั้งหมด 49 แห่งทั่วประเทศ)
4. บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) จำกัด > ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา
อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) บอกว่าจุดเริ่มต้นของ EA Anywhere เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 โดยนับเป็นการต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดของ EA (ไบโอดีเซล พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม) เพื่อผลักดันให้ประเทศไทย ซึ่งเดิมมีศักยภาพในด้านการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ให้พร้อมเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่การผลักดันสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจ และกลยุทธ์หลักของ EA เพื่อให้ประเทศไทยและกรุงเทพฯ พร้อมรับมือกับความเปลี่ยแปลงของเทคโนโลยีพลังงานในอนาคต
โดยเฉพาะความร่วมมือกับ 4 พันธมิตรในครั้งนี้ที่มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งประเทศ และจะช่วยให้ผู้ใช้งานยานยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จประจุได้ด้วยไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบาย ไม่จำกัดว่าต้องเดินทางไปที่สถานีบริการน้ำมันเหมือนในอดีต แถมยังต่อยอดให้สถานีชาร์จประจุไฟฟ้าขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว
ที่น่าจับตาคือความร่วมมือในครั้งนี้ของ EA ยังมีรายชื่อของ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ และ ‘คาลเท็กซ์’ เข้ามาเป็น 2 พันธมิตรหน้าใหม่ของบริษัทด้วย และนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัทในการเดินหมากธุรกิจสถานีชาร์จไฟฟ้าเลยก็ว่าได้
ปัจจุบัน เซเว่น อีเลฟเว่น มีสาขาประมาณ 11,547 แห่งทั่วประเทศ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 13 ล้านคนต่อวัน โดย วิเชียร จึงวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้ดำเนินกิจการร้านสะดวกซื้อ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ความตั้งใจของทางซีพี ออลล์ คือการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า สอดรับเทรนด์พลังงานสะอาด และการร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
วิเชียร บอกว่า จากเดิมที่ลูกค้าสามารถจอดรถได้ 15 นาทีเมื่อเข้ามาใช้บริการร้านค้า เซเว่น อีเลฟเว่น แต่เมื่อต้องการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็สามารถจอดได้นานเพิ่มขึ้นเป็น 30 นาที เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม เติมพลังให้กับทั้งตัวเองและรถยนต์ได้ด้วย ส่วนจะเพิ่มสาขา และขยายออกไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า และข้อตกลงกับทาง EA
ด้าน ชุตินธร ปักเข็ม รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายผลิตภัณฑ์ประเทศไทย บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด บอกว่าแผนการของคาลเท็กซ์คือติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าของ EA ในสถานีบริการน้ำมันทั้งหมด 30 แห่ง โดยในตอนนี้มีทั้งหมด 5 สาขาที่คอนเฟิร์มติดตั้งแล้ว
เมื่อถามถึงภาพรวมความเปลี่ยนแปลงของการดำเนินธุรกิจจากเชื้อเพลิงแบบน้ำมันไปสู่พลังงานไฟฟ้า รองผู้จัดการใหญ่ฝ่ายผลิตภัณฑ์เชฟรอน (ไทย) มองว่ายังเร็วไปที่ธุรกิจน้ำมันจะเคลื่อนมาทางธุรกิจพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ 100% เพราะภาพรวมธุรกิจน้ำมันในประเทศไทยก็ยังเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 2-3% การติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าครั้งนี้จึงเป็นการ ‘เพิ่มทางเลือก’ ให้กับลูกค้าคาลเท็กซ์ มากกว่าเข้ามาแทนที่ธุรกิจน้ำมันแบบเบ็ดเสร็จ
ปัจจุบันสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าของ EA Anywhere มีทั้งหมดประมาณ 400 จุดทั่วประเทศไทย ในจำนวนนี้ราว 75% หรือกว่า 300 จุดจะอยู่ในโซนตัวเมืองกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ค่าใช้บริการสำหรับการชาร์จแบบปกติอยู่ที่ 50 บาท / 1 ชั่วโมง, 80 บาท / 2 ชั่วโมง, 100 บาท / 3 ชั่วโมง และ 150 บาท / 4 ชั่วโมง (ควิกชาร์จคิดค่าบริการเป็นยูนิต ยูนิตละ 9 บาท)
โจทย์สำคัญต่อจากนี้ของทาง EA คือการดันสถานีชาร์จเพิ่มเป็น 1,000 แห่งภายในปีนี้ โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนของสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าในต่างจังหวัด ให้มีปริมาณใกล้เคียงกับพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และในเร็วๆ นี้เราน่าจะได้เห็นพันธมิตรหน้าใหม่ของ EA ตบเท้าทยอยเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งพวกเขาขยายความพร้อมโครงสร้างขั้นพื้นฐานของ EA ได้เร็วแค่ไหน โอกาสที่รถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดในประเทศไทยก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
