เมื่อผู้คนหยุดเดินทางอันเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องโควิด-19 แน่นอนว่าผู้ได้รับผลกระทบไม่ได้มีเพียงสนามบินที่ต้องปิดตัวลงชั่วคราว หรือสายการบินที่เครื่องบินเกือบทั้งหมดจอดอยู่บนพื้นดินแทนที่จะอยู่บนฟากฟ้าเหมือนช่วงปกติ ‘ร้านค้าปลอดภาษี’ หรือ Duty-free เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่บาดเจ็บหนักไม่แพ้กัน จากอุตสาหกรรมที่เติบโตและมีกำไรมหาศาลก่อนการระบาด บัดนี้ได้เข้าสู่จุดพลิกผันเสียแล้ว
China International Travel Service หรือ CITS ผู้เป็นเจ้าของร้านปลอดภาษีรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ออกมารายงานผลประกอบการว่ารายรับในไตรมาสแรกลดลง 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 7.63 พันล้านหยวน หรือ 3.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นตัวเลขขาดทุนสุทธิ 120.14 ล้านหยวน หรือ 551 ล้านบาท จากที่เคยทำกำไร 2.3 พันล้านหยวน หรือประมาณ 1.05 หมื่นล้านบาทเมื่อปีก่อน
คำอธิบายที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์นั้นเป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “กลุ่มลูกค้าของร้านค้าปลอดภาษีของบริษัทลดลงอย่างมากเพราะอิทธิพลการแพร่ระบาดของโควิด-19” เนื่องจากบริษัทได้แยกธุรกิจตัวแทนการท่องเที่ยวให้เป็นบริษัทแม่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพื่อลดการแข่งขันระหว่างกลุ่มบริษัท CITS จึงมุ่งไปที่ธุรกิจร้านปลอดภาษีแทน
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Changjiang ระบุว่าบริษัทต้องจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในร้านค้าบางแห่งเพื่อเพิ่มยอดขาย หลังจากพบว่าสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีก่อน
CITS มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่ง ดำเนินกิจการร้านค้าปลอดภาษีกว่า 200 แห่งทั่วแผ่นดินใหญ่ CITS เพลิดเพลินกับการเติบโตมาตลอด โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีมานี้ที่มีคนเดินทางเข้าออกสนามบิน ท่าเทียบเรือ ด่านชายแดน สถานีรถประจำทาง และสถานีรถไฟที่เปิดร้านค้ามากขึ้น ล่าสุดยังได้รับสัมปทาน 10 ปีที่สนามบินนานาชาติต้าซิง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบินแห่งที่สองแห่งใหม่ของกรุงปักกิ่งอีกด้วย
ปีงบประมาณ 2019 ที่ผ่านมา CITS มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 50% เป็น 4.62 พันล้านหยวน หรือ 2.12 หมื่นล้านบาท ทว่าตอนนี้ผลจากโรคระบาดทำให้ต้องปิดและลดเวลาทำการในร้านค้าบางแห่งลงชั่วคราว
นอกเหนือจากยักษ์ใหญ่ของแผ่นดินใหญ่แล้ว ธุรกิจในแดนกิมจิก็อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างกันมากนัก Hotel Shilla ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในเครือ Samsung เปิดเผยว่าธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีมีรายได้ลดลงเหลือ 4.9 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมของปีก่อนที่มีรายได้ 8.22 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 2.18 พันล้านบาท เมื่อรวมกับธุรกิจโรงแรมที่ขาดทุนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไตรมาสแรกนี้ Hotel Shilla พลิกมาขาดทุนจากการดำเนินงาน
Hotel Shilla มีธุรกิจอยู่ในสนามบินหลักในเกาหลีใต้เองและในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ โตเกียว และภูเก็ต ซึ่งส่วนใหญ่ปิดให้บริการ อย่างไรก็ตาม Hotel Shilla ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแนวโน้มของผลประกอบการมากนัก บอกแต่เพียงว่าบริษัทจะลดผลกระทบของโควิด-19 จากการปรับธุรกิจทั้งภายนอกและภายใน
ขณะที่ NWS Holdings ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงของ New World Development ได้ออกรายงานในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า การดำเนินงานของร้านปลอดภาษียังอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารและผู้มาเยือนลดลงจากการมีกิจกรรมสาธารณะ ซึ่งจริงๆ เป็นการเลี่ยงใช้คำ เพราะกิจกรรมสาธารณะที่ว่าคือการประท้วงต่อต้านรัฐบาล
อันที่จริงธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี ซึ่งรวมถึงศูนย์การประชุมและการดำเนินงานโรงพยาบาลยังคงเป็นส่วนการขาดทุนที่ใหญ่ที่สุดของพอร์ตธุรกิจในช่วง 6 เดือนเมื่อนับถึงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อปลายปีที่แล้ว NWS Holdings ได้ปิดร้านที่ตั้งอยู่ในมาเก๊า และยกเลิกสัมปทานในสนามบินบางแห่งไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการรายงานของกลุ่มยักษ์ใหญ่ในธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีในเอเชีย แสดงให้เห็นว่าทุกรายต่างได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด สิ่งที่ต้องจับตาให้ดีคือการระบาดของโควิด-19 จะกินเวลายาวนานขนาดไหน และจะสร้างบาดแผลให้กับธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีมากน้อยขนาดไหน และที่สำคัญคือเมื่อไรจะฟื้นกลับมาอยู่ในยุครุ่งเรืองอีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: