วันนี้ (9 พฤศจิกายน) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 เวลา 05.00-07.00 น. ตรวจวัดได้ 16.6-47.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานครอยู่ที่ 26.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อวานนี้ และพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) จำนวน 4 พื้นที่ คือ
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ ซอยเพชรเกษม 81: มีค่าเท่ากับ 47.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา: มีค่าเท่ากับ 43.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2: มีค่าเท่ากับ 39.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน: มีค่าเท่ากับ 38.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ แนะนำให้ประชาชนทั่วไปใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร, จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา
ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร, เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที
อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศในช่วงวันที่ 9-17 พฤศจิกายน 2567 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ ‘ไม่ดี-อ่อน’ ขณะที่ชั้นบรรยากาศใกล้ผิวมีลักษณะเปิดสลับปิด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่าวันนี้จะมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่
จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียมจากหน่วยงาน NASA ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร