บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า บริษัทได้ขอหยุดการให้บริการธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยที่กลุ่มบริษัทในเครือดุสิตเป็นเจ้าของชั่วคราวทั้งหมด 7 แห่งทันทีจนกว่าจะมีการแจ้งกำหนดการเปิดอีกครั้ง
โดยโรงแรมที่ทางดุสิตธานีได้ประกาศปิดให้บริการชั่วคราวทั้ง 7 แห่งประกอบด้วย โรงแรมดุสิตธานี พัทยา, โรงแรมดุสิตธานี ภูเก็ต (หยุดให้บริการทันทีตามคำสั่งของจังหวัด), โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน, โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่, โรงแรมดุสิตปริ้นเซส เชียงใหม่, โรงแรมดุสิตปริ้นเซส ศรีนครินทร์ และโรงแรมดุสิตสวีท ราชดำริ กรุงเทพฯ (เฉพาะ 5 โรงแรมหลัง ทางดุสิตได้ใช้มาตรการหยุดการรับจอง และยุติการรับลูกค้าใหม่ทันที โดยให้พนักงานดูแลพนักงานและดูแลสุขภาพอนามัยของลูกค้าอย่างเคร่งครัด จนกว่าลูกค้าคนสุดท้ายจะสิ้นสุดการเข้าพัก)
ทั้งนี้ทางดุสิตธานียืนยันว่า มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการ ‘ระยะสั้น’ เพื่อให้บริษัทสามารถประคอง ‘ธุรกิจในระยะยาว’ ให้ดำเนินต่อไปได้ โดยโรงแรมทุกแห่งยังสามารถให้บริการส่งอาหาร Food Delivery ได้ตามปกติ
และเนื่องจากมาตรการดังกล่าวย่อมทำให้ธุรกิจของบริษัทได้รับผลกระทบ ทางดุสิตธานีจึงได้เตรียมแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อรายได้และความสามารถในการทำกำไร โดยปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ได้มากที่สุด หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ตลอดจนลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานที่สำนักงานส่วนกลาง โดยให้ทำงานจากที่บ้าน
โดยเอกสารภายในบริษัทที่ดุสิตธานีส่งถึงพนักงานระบุไว้ว่า จะดำเนินการตามมาตรการที่สอง ขอความร่วมแรงร่วมใจพนักงานโรงแรมและพนักงานดุสิตส่วนกลางทุกรายปฏิบัติตามมาตรการ ‘ลดเงินเดือน’ (ได้รับสวัสดิการตามปกติ) เริ่มตั้งแต่ 15 เมษายนนี้ จนกว่าบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ซี่งพนักงานโรงแรมในเครือดุสิตธานีระดับ 10-13 และ 14-33 จะได้รับเงินเดือนในอัตรา 75% ของเงินเดือนรายเดือน (กรณีต้องมาปฏิบัติงานระหว่างหยุดกิจการชั่วคราวจะได้รับเงินเดือน 100%) ส่วนพนักงานระดับ 41-53 ยังได้รับเงินเดือน 100% เต็ม
ขณะที่พนักงานสำนักงานดุสิตส่วนกลางระดับ 10-13 จะได้รับเงินเดือนในอัตรา 70% ของเงินเดือน, ระดับ 14-33 จะได้รับเงินเดือนในอัตรา 75% ของเงินเดือนรายเดือน และระดับ 41-53 ยังได้รับเงินเดือน 100% เต็ม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า