วานนี้ (3 ธันวาคม) ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนกลุ่มทุนจีนสีเทาถึงความคืบหน้าในการตรวจค้นจุดต่างๆ 26 จังหวัด โดยใช้เวลาการประชุมนาน 1 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมในส่วนของฝ่ายสืบสวนทั้งหมดที่ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบ ทั้งเรื่องของการขออนุญาตอยู่ต่อ การเปลี่ยนประเภทหนังสือเดินทาง (วีซ่า) จากด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) 26 จังหวัด โดยพบว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาประมาณ 100 รายจากผับจินหลิง ที่ใช้เป็นวีซ่าสำหรับการศึกษาและเปลี่ยนวีซ่าเป็นประเภทต่างๆ
จากการสอบสวนผู้ต้องหา โทนี่ (หยู่ฉางเฟ่ย) ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ที่ผ่านมาใช้วิธีเข้าประเทศไทยโดยใช้วีซ่าของ ตม. ไหนบ้าง เจ้าหน้าที่ทำการเรียกหัวหน้าด่านทั้งหมดมาสอบปากคำ โดยจะดูว่ามีการขอวีซ่าถูกต้องหรือไม่ รวมถึงสถานศึกษาต่างๆ ว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไร คาดว่าน่าจะพบการกระทำผิดมากพอสมควร
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวต่อไปว่า ส่วนพัชรินทร์คนสนิทของ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว กับ หลิน มีรายงานว่าเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดของตู้ห่าว วันนี้ทางตำรวจได้เจอตัวทั้งสองคนแล้ว เดิมทีนัดจะมาพบในวันอังคารที่ 6 ธันวาคม แต่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบที่โรงแรมแห่งหนึ่งก็ได้เจอตัวทั้งสองคน แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่พบการกระทำความผิด
“การสอบสวนยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ โดยในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ทั้งสองยังคงมาตามหมายเรียกเหมือนเดิม แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่ถ้าเกิดพบว่ามีความผิด ก็จะต้องว่าไปตามกฎหมาย โดยมาในฐานะพยาน ทั้งสองได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ต้องสอบปากคำก่อนว่ามีความผิดในส่วนไหน ถ้าไม่มีความผิดก็ไม่ดำเนินคดี ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองด้วย” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าว