วันนี้ (13 มกราคม) สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย, สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย, สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย), สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย, เสาวลักษณ์ ทองก๊วย ที่ปรึกษาสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ และอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ร่วมกันแถลงข่าวถึงข้อเรียกร้องต่อ ปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี พรรรคพลังประชารัฐ กรณีออกมาแสดงความคิดเห็นเปรียบเทียบนักแสดงสาวกับบุคคลออทิสติก โดยร่วมกันออกแถลงการณ์ระบุว่า
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อสาธารณะ เรื่อง ปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ต่อว่านักแสดงท่านหนึ่งโดยใช้คำว่า ‘ออทิสติก’ เปรียบเปรยแทนคำในทำนองว่านักแสดงท่านนั้นแบ๊วหรือออทิสติก การกระทำดังกล่าวถือเป็นการเหยียดหยาม เป็นการทำให้รู้สึกด้อยค่า เป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการ ขัดกับหลักการตามรัฐธรรมนูญและอนุสนธิสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ รวมทั้งเมื่อเป็นคำพูดที่ออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนปวงชนชาวไทย ยิ่งเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมเจตคติที่ไม่ถูกต้องของสังคมเกี่ยวกับคนพิการว่าเป็นคนไร้ความสามารถ ไร้ศักยภาพ ทั้งนี้ บ่อยครั้งที่คนในสังคมยังใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม เช่น เรียกคนหูหนวกว่าคนใบ้ เรียกคนพิการทางสติปัญญาว่าคนปัญญาอ่อน เรียกคนพิการทางจิตสังคมว่าคนบ้า และใช้คำเหล่านั้นแทนคำด่า
ถึงแม้จะใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมข้างต้นด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือไม่มีเจตนาดูหมิ่นดูแคลนคนพิการหรือบุคคลออทิสติก แต่ทว่าเมื่อสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) บิดามารดา ผู้ปกครองบุคคลออทิสติก บุคคลออทิสติกเอง และคนอื่นในสังคมมากมายออกมาแสดงความกังวล ไม่สบายใจ ตักเตือน วิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะด้วยความบริสุทธิ์ใจ แทนที่ท่านจะรับฟังเสียงของประชาชน โดยเฉพาะพยายามทำความเข้าใจกับประเด็นความอ่อนไหวทางสังคมและวัฒนธรรม ท่านกลับประกาศกร้าวผ่านสื่อสาธารณะว่าจะดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่งให้ถึงที่สุด รวมถึงได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทแก่ประชาชนเหล่านั้น เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยและองค์การสมาชิก ในฐานะที่มีหน้าที่พิทักษ์สิทธิคนพิการ ใคร่ขอเรียกร้องให้ ปารีณา ไกรคุปต์ กล่าวคำขอโทษต่อบุคคลออทิสติกและครอบครัว และเป็นยุติการคุกคามทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทันที รวมถึงขอให้สังคมมีเจตคติและให้โอกาสคนพิการ เพราะคนพิการมีศักยภาพไม่ต่างจากคนทั่วไป
ด้านอนันต์ชัย ทนายความที่ถูกปารีณาแจ้งความหลังออกมาวิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าวระบุว่า ในความเป็นพ่อ ตนเองรู้สึกสะเทือนใจมาก ตนมีลูกป่วย 2 คน คนหนึ่งป่วยออทิสติก ในหัวอกลึกๆ แสนที่จะเจ็บช้ำ ที่ผ่านมาตนเองพยายามปรับตัว เลี้ยงลูกทั้งสองด้วยธรรมโอสถ วันนี้ลูกสาวคนหนึ่งเป็นนักเรียนทุน กำลังไปเรียนที่ต่างประเทศ
อนันต์ชัยระบุอีกว่า การที่ปารีณาไปเปรียบเขาว่าน่ารักเหมือนออทิสติก ต้องบอกว่าออทิสติกคือโรค พูดตามความจริงคือไม่ใช่เรื่องน่ารักที่ใครจะมีภาวะแบบนี้ ตนเองรักษาลูกจนรู้ความ ลูกบอกว่าจะบวชให้ น้ำตาไหล
“เขาว่าผมไปดูถูกเขา คุณเป็น ส.ส. ผู้ทรงเกียรติ เป็นบุคคลสาธารณะ เรามีสิทธิ์วิจารณ์คุณ น้องก้อยเป็นใคร ผมไม่รู้จัก ผมก็ช่วยบอกเตือน คุณเห็นผมดังก็เล่นผมเลย วันนี้อนันต์ชัยไม่กลัวคุณ ผมมีพยาน 2 หมื่นคนที่จะให้ สภ.โพธาราม และถ้ารวมคนพิการก็ 3 ล้านคน ผมจะมีหนังสือไปหาตำรวจให้สอบพยานทั้ง 3 ล้านคน” อนันต์ชัยกล่าวและระบุอีกว่า
ตนเองจะเปิดล่ารายชื่อจากคนพิการทั่วประเทศ รวมถึงประชาชนทุกคน ถ้าคนไหนเห็นว่าคำพูดของปารีณาที่กล่าวว่าออทิสติกน่ารักนั้นถูกต้องก็ไม่ต้องลงชื่อ แต่ถ้าเห็นว่าเหยียดหยามดูถูกขอให้ลงชื่อมา และจะนำส่งให้ประธานสภา ชวน หลีกภัย ส่งไปที่นายกรัฐมนตรี ส่งไปที่สหประชาชาติ หน่วยงานคนพิการทั้งหมด รวมถึงส่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และส่งอัยการเพื่อไม่ให้แทรกแซงคดี โดยจะขอให้ไปสอบพยาน ณ ภูมิลำเนาของผู้พิการเหล่านั้นด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์