เป็นเวลากว่า 17 ปีแล้วที่ Dtac เปิดบริการที่ชื่อว่า ‘ใจดี’ ซึ่งปัจจุบันมีบริการใจดีต่างๆ อยู่ถึง 17 บริการ เช่น บริการใจดีให้ยืม มีวงเงินค่าโทรศัพท์ตั้งแต่ 10-130 บาท, ใจดีให้โอน และใจดีต่อโปรให้นะ
“ปี 2563 ที่ผ่านมาลูกค้าของ Dtac ใช้บริการใจดีรวมกันกว่า 140 ล้านครั้ง หรือเฉลี่ย 5 ครั้งต่อวินาที ซึ่งนี่สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่” ฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ Dtac กล่าว
แม่ทัพการตลาดของ Dtac กล่าวต่อว่า ข้อมูลเชิงลึกจากการสำรวจปัญหาทางด้านการเงินของลูกค้า Dtac ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2563-2564 พบว่า ลูกค้าของเราต้องเผชิญภาวะความตึงเครียดด้านการเงิน การจัดการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พอมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องใช้เงินก็หันไปพึ่งสินเชื่อจากแหล่งต่างๆ ซึ่งมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ถูกต้องและเหมาะสม โดยลูกค้าของ Dtac 56% เท่านั้นที่มีโมบายแบงกิ้ง
“คนจำนวนมากยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงการให้บริการทางการเงินที่ถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะลูกค้าแบบเติมเงิน ที่มีรายได้เป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ ซึ่งมีความไม่แน่นอนทางการเงินสูง ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่มีใบแจ้งเงินเดือน ไม่มีเอกสารรายได้แบบทางการ บางคนไม่มีความรู้ความเข้าใจในบริการทางการเงิน”
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ Dtac ได้ต่อยอดบริการใจดีไปสู่ ‘ใจดี มีวงเงินให้ยืม’ โดยจับมือกับ ‘LINE BK’ ผู้ให้บริการ Social Banking ในการให้บริการ โดยมี ‘กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)’ เป็นผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี (Tech Provider)
เบื้องต้นแคมเปญนี้จะทดลองมอบข้อเสนอให้กับลูกค้า Dtac เฉพาะกลุ่มผ่านช่องทาง Dtac แอปพลิเคชัน, SMS จาก Dtac และสื่อออนไลน์ และระบบจะเปิดให้สามารถเข้าสมัครบริการวงเงินให้ยืม (Credit Line) ของ LINE BK ได้ทันที ซึ่งสามารถสมัครและรับการอนุมัติผ่าน LINE ได้เลย
ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ LINE BK กล่าวว่า สำหรับผู้มีรายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว โดยจะให้สูงสุด 1.5 เท่าของเงินเดือน โดยจะให้วงเงินกู้สูงสุด 8 แสนบาท แต่ที่ผ่านมาค่าเฉลี่ยของวงเงินที่ LINE BK อนุมัติอยู่ที่ 30,000 บาท
“การคิดดอกเบี้ยเราจะคิดตามความเสี่ยงของลูกค้า ให้ไม่เท่ากัน โดยต่ำสุดอยู่ที่ 18-33%” ธนากล่าว พร้อมเสริมว่า ผู้ที่ได้รับการอนุมัติในแคมเปญนี้นอกจากจะได้รับเงินคืนถึง 200 บาท จาก Dtac แล้ว ยังจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ 9.99% ต่อปี นาน 2 เดือน จาก LINE BK อีกด้วย
สำหรับ LINE BK ประกอบไปด้วย 4 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ บัญชีเงินฝาก, บัญชีเงินออมดอกพิเศษ, บัตรเดบิต และวงเงินให้ยืม ก่อนหน้านี้ LINE BK เปิดเผยว่า มีผู้ใช้แล้วกว่า 2.8 ล้านบัญชี และมียอดการทำธุรกรรมรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่เกินความคาดหมายหลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
ปัจจุบันยอดรวมการปล่อยสินเชื่อ (Disbursed) อยู่ที่ 14,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้างในตลาด (Outstanding) 9,000 ล้านบาท โดยมีการอนุมัติทั้งสิ้น 350,000 ราย สำหรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 20-25% ตอนนี้มีวงเงินกู้ยืมเฉลี่ย 35,000 บาทต่อราย และดอกเบี้ยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์อยู่ที่ 33% มีวงเงินกู้ยืมเฉลี่ย 11,000 บาทต่อราย โดยมีสัดส่วนการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) เฉลี่ยอยู่ที่ 10-20% ตามสถานการณ์และความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม่ทัพการตลาดของ Dtac ไม่ได้เปิดเผยว่าจากฐานลูกค้า Dtac จำนวน 19 ล้านคน ตั้งเป้าจะมีลูกค้าเข้าร่วมแคมเปญนี้เท่าไร โดยบอกแต่เพียงว่าบริการนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนในการให้บริการลูกค้าและในอนาคตจะมีบริการทางการเงินอื่นๆ ที่จับมือกับ LINE BK และ KBTG ตามมาอีกมากมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: