ที่ประชุมผู้ถือหุ้น DTAC-TRUE อนุมัติแผนควบรวมรวม โดยผู้ถือหุ้น DTAC โหวตผ่าน 89.0787% ของผู้ที่มีสิทธิออกเสียง ด้าน ซิทริน เวนเจอร์ โฮลดิ้งส์ และ Citrine Investment SG Pte Ltd พร้อมรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่ไม่เห็นด้วยในราคา 50.50 บาท ขณะที่ผู้ถือหุ้น TRUE มีมติเป็นเอกฉันท์ 99.3713% อนุมัติการควบบริษัท คาดจัดตั้งบริษัทใหม่แล้วเสร็จและนำเข้าซื้อในตลาดหุ้นแทนในครึ่งปีหลัง
บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) แจ้งว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ (4 เมษายน) มีมติอนุมัติแผนการควบรวมบริษัทระหว่าง DTAC และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ด้วยคะแนนเสียง 89.0787% ของผู้ที่มีสิทธิออกเสียง ซึ่งถือว่าไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ขณะที่มีผู้ถือหุ้นที่ไม่เห็นด้วย 10.9210%
โดยบริษัทมีหน้าที่ตามมาตรา 146 วรรค 2 แห่ง พ.ร.บ.บริษัทมหาชน ในการจัดให้มีผู้รับซื้อหุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งสุดท้าย ก่อนวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจะมีมติอนุมัติการควบบริษัท ซึ่งในกรณีนี้คือวันที่ 1เมษายน 2565 ซึ่งมีราคาเท่ากับ 50.50 บาทต่อหุ้น
ในการนี้บริษัท ซิทริน เวนเจอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด และ Citrine Investment SG Pte Ltd ซึ่งได้แสดงความประสงค์ที่จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านของบริษัท ได้ยืนยันว่าจะรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านของบริษัทที่ราคา 50.50 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น DTAC อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 8,539,260 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 4,744,161,260 บาท แบ่งเป็น 2,372,080,630 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 4,735,622,000 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน 4,269,630 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท
ขณะที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น TRUE ในวันนี้ (4 เมษายน) มีมติเป็นเอกฉันท์ 99.3713% อนุมัติการควบบริษัทระหว่าง TRUE กับ DTAC ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วย 0.6283%
โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้น TRUE อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 1,840,652 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 133,474,621,856 บาท แบ่งเป็น 33,368,655,464 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 133,472,781,204 บาท แบ่งเป็น 33,368,195,301 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย จำนวน 460,163 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท
ทั้งนี้ บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบริษัท (บริษัทใหม่) จะมีทุนจดทะเบียนและทุนจดทะเบียนชำระแล้ว จำนวน 138,208,403,204 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 34,552,100,801 หุ้น พาร์หุ้นละ 4 บาท
โดยในการควบรวมกิจการจะมีการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ DTAC และผู้ถือหุ้น TRUE ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมใน DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่
ชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าวว่า การมติอนุมัติครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยี-โทรคมนาคม ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับวาระดิจิทัลของประเทศไทย นำเสนอบริการใหม่ให้กับลูกค้า และเร่งการพัฒนาทางทักษะของบุคลากรที่พร้อมให้บริการลูกค้ายุคใหม่
นอกเหนือจากการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันนี้แล้ว การควบรวมกิจการยังต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบและแจ้งเจ้าหนี้ หน่วยงานกำกับดูแล อันได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ซึ่งได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ถึงความตั้งใจของ TRUE และ DTAC ในการควบรวมกิจการ
บริษัทเทคโนโลยี-โทรคมนาคมจะนำเสนอบริการ 5G ด้วยคุณภาพเครือข่ายที่ครอบคลุมการใช้งาน ความน่าเชื่อถือ ความเร็ว ตลอดจนบริการที่เน้นคุณค่าพร้อมการดูแลลูกค้าที่ดีขึ้น และขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจอนุมัติการควบรวมกิจการครั้งนี้
โดยบริษัทเทคโนโลยี-โทรคมนาคม มีแผนธุรกิจเพื่อตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการรับมือกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ยกระดับประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำในโลกดิจิทัลได้ ด้วยการผนวกความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ากับการบริการที่ดึงดูดลูกค้า พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า
ชารัดกล่าวว่า กระบวนการควบรวมกิจการนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ในระหว่างนี้ลูกค้าของ DTAC จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ โดยลูกค้าคงยังสามารถซื้อสินค้าและบริการของเราได้ และใช้บริการของบริษัทได้ตามปกติ
ทางด้านมนัสส์ มานะวุฒิเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) TRUE กล่าวว่า วันนี้ (4 เมษายน) ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 มีมติอนุมัติการควบรวมกิจการ TRUE และ DTAC ในการนี้บริษัทขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจในศักยภาพและเข้าใจความมุ่งมั่นของบริษัท ที่จะพัฒนาต่อยอดธุรกิจโทรคมนาคมไปสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Technology Company) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจท่ามกลางความท้าทายของตลาดโทรคมนาคมและเทคโนโลยีใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
บริษัทเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นใหม่จากการควบรวมนี้จะเป็นผู้นำไม่เพียงแต่เครือข่ายบริการโทรคมนาคมคุณภาพสูง แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัย ทั้งปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์เทคโนโลยี IoT เมืองอัจฉริยะ ดิจิทัลมีเดียโซลูชัน การศึกษาด้านเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจ ตลอดจนส่งเสริมการสร้างสรรค์ระบบนิเวศทางธุรกิจและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย สร้างประโยชน์และเพิ่มมูลค่าสูงสุดสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการ ผู้ถือหุ้น คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย ทั้งในด้านโครงข่าย นวัตกรรม และการลงทุน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0