วันนี้ (19 มกราคม) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนคดีหมูเถื่อนที่ขยายผลจากหมูเถื่อน 161 ตู้ จำนวน 2 สำนวน สำนวนละ 3,000 แผ่น ประกอบด้วย คดีพิเศษที่ 101/2566 ที่ดำเนินการกับบริษัท กู๊ด วอเตอร์ อีควิปเม้นท์ จำกัด และคดีพิเศษที่ 104/2566 ที่ดำเนินการกับบริษัท อาร์.ที.เอ็นโอเวอร์ซี จำกัด ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ร.ต.อ. ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค และในฐานะเลขานุการคดีหมูเถื่อน กล่าวว่า ได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวใน 2 หน่วยงาน จำนวน 3 ราย ที่พบการกระทำผิดชัดเจน ใน 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่
- หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243
- หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นๆ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244
- นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายอันเป็นความผิดตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ประกอบมาตรา 68 และมาตรา 83 ตามประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการนำสินค้าเข้าและออก พิธีการศุลกากร มีอำนาจในการพิจารณาใช้ดุลพินิจในการตรวจปล่อยสินค้าได้ โดยมีหลักฐานเป็นเส้นทางการเงินประมาณ 10 ล้านบาท
ร.ต.อ. ชาญณรงค์ กล่าวว่า ภายหลังจากส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ป.ป.ช. ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และในวันนี้จะติดตามความคืบหน้าในสำนวนคดีแรกที่ได้ส่งไปให้กับ ป.ป.ช. ซึ่งโจทก์ในสำนวนดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องประมาณ 10 ราย ทั้งกลุ่มที่พบความผิดชัดเจนและกลุ่มที่ถูกกล่าวพาดพิง
ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อพิจารณาว่าออกหมายเรียกข้าราชการระดับสูงจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าในปีที่เกิดเหตุการณ์ด้วย ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ
รวมทั้งพิจารณากลุ่มเป้าหมายที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติม โดยเฉพาะกรณีการนำเข้าเนื้อไก่เถื่อน ที่คาดว่าจะมีกลุ่มที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกประมาณ 3-4 กลุ่ม และมีพฤติการณ์เดียวกับกลุ่มบริษัทของ หยางยาซุง, นวพร และสมเกียรติ ผู้ต้องหาในขบวนการที่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้
ร.ต.อ. ชาญณรงค์ กล่าวว่า กลุ่มเฮียเก้า หรือ หลี่เซิ่งเจียว และลูกชาย ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ หลังถูกดีเอสไอออกหมายจับนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานเพิ่มเติมว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อใด แต่ได้ประสานตำรวจสากลเพื่อขอออกหมายจับสากลแล้ว