วันนี้ (30 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สนธิกำลังร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมศุลกากร การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าตรวจค้นอาคาร 3 หลัง ตั้งอยู่ติดกันภายในซอยสามัคคี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
พบว่ามีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับขุดเงินสกุลดิจิทัลจำนวนมาก และที่บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ของอาคารมีการดัดแปลงช่องระบายความร้อนและเปิดหน้าต่าง ลักษณะคล้ายห้องอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับขุดเงินสกุลดิจิทัล
นอกจากนี้ยังพบว่ามีการต่อเติมฝ้าเพดาน ปกปิดสายไฟที่ต่อเข้ากับอาคารเอาไว้ จึงประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงเข้าตรวจสอบ ซึ่งพบว่ามีการต่อสายไฟเข้าอาคารโดยตรงไม่ผ่านหม้อแปลง
ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดี DSI กล่าวว่า การตรวจสอบในครั้งนี้เนื่องจากพบว่ามีบริษัทขุดเงินสกุลดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซีลักษณะโกงค่าไฟฟ้า โดยใช้อาคารบ้านพักเป็นแหล่งปฏิบัติการ การลงพื้นที่สืบสวนเพิ่มเติมตรวจพบรวมแล้ว 50 จุด
จุดแรกที่เข้าตรวจค้นในวันนี้เป็นจุดสำคัญ เนื่องจากเป็นจุดที่มีผู้ดูแลถือกุญแจในจุดต่างๆ ที่จะเข้าตรวจค้นในวันนี้ ซึ่งแต่ละอาคารจะมีเครื่องขุด Bitcoin จำนวนกว่า 30 เครื่อง ตามปกติจะต้องเสียค่าไฟขั้นต่ำเดือนละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท แต่กลับพบว่าอาคารแห่งนี้เสียค่าไฟแค่เดือนละ 300 บาท
โดยลักลอบทำมานานกว่า 1 ปี หากรวมทั้งหมด 50 จุดมีจำนวนคอมพิวเตอร์มากกว่า 3,000 เครื่อง ซึ่งหากเป็นการลักลอบใช้ไฟทั้งหมดจะทำให้รัฐได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าเจ้าของมีชื่อเป็นคนไทย และจะขยายผลเพิ่มเติมถึงนายทุนคนอื่นๆ หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายทุนต่างชาติก็จะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ไตรยฤทธิ์กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจค้นในครั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปความเสียหายได้ทั้งหมด แต่ที่สามารถดำเนินคดีได้คือข้อหาลักทรัพย์ โดยเป็นการขโมยใช้ไฟฟ้าของรัฐ ต้องถูกดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา ส่วนข้อหาอื่นจะเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง