×

DSI เร่งเช็กเส้นทางเงินย้อนหลัง 7 ปีของ 18 บอสดิไอคอนกรุ๊ป-แม่นักการเมืองดัง คาดคืบหน้าใน 2 สัปดาห์

โดย THE STANDARD TEAM
01.11.2024
  • LOADING...

วันนี้ (1 พฤศจิกายน) จากกรณี พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มีคำสั่งรับสำนวนคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เป็นคดีพิเศษที่ 119/2567 ใน 2 ฐานความผิดเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันอันประกอบด้วย ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หลังส่งต่อสำนวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และก่อนเตรียมออกคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อสรุปสำนวนคดีนำส่งต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษให้ทันกรอบระยะเวลาการฝากขัง 18 ผู้ต้องหาภายในผัดแรกนั้น

 

สำหรับความคืบหน้าในวันนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างรอเอกสารรายงานเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของบรรดา 18 ผู้ต้องหาจากธนาคาร ซึ่งหาก DSI ได้รับรายงานธุรกรรมดังกล่าวแล้วจะนำมาตรวจสอบว่าใครมีการทำธุรกรรมอย่างไรกันบ้าง เช่น บุคคลใดโอนเงินให้บุคคลใด และบุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างไร

 

ส่วนประเด็นเรื่องเส้นทางการเงินจำนวน 2.5 ล้านบาทที่ถูกโอนจากบัญชีธนาคารของ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ไปยังบัญชีธนาคารของมารดานักการเมืองท่านหนึ่ง ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบเช่นเดียวกัน เพราะต้องตรวจสอบที่มาที่ไป เนื่องจากคดีการฟอกเงินทางอาญานั้นจำเป็นต้องดูทั้งขาเข้าและขาออกถึงจะโยงกันได้ อย่างไรก็ตาม แม้พูดกันตามปกติว่าโอนไปที่ไหนอย่างไร แต่กระบวนการสอบสวนเพื่อให้มีการดำเนินคดีจะต้องมีขาเข้าและขาออกที่ชัดเจนถึงจะเชื่อมโยงกันได้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการชี้แจงว่าเงิน 2.5 ล้านบาทดังกล่าวคือเงินโอนทำบุญระหว่างกัน ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องนำใบอนุโมทนามาใช้ยืนยันการทำธุรกรรมกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยืนยันว่า ใช่ เพราะต้องเอาหลักฐานมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ว่าเงินที่นำออกไปนำไปใช้ทำอะไร, อย่างไร, ที่ไหน และเพื่อวัตถุประสงค์ใด ดังนั้นแม้จะให้การอย่างไรก็สามารถให้การได้ แต่จะอยู่ที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ต้องพิจารณาว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หากเชื่อก็ถือว่าเป็นการทำธุรกรรมสุจริต แต่ถ้าไม่เชื่อก็จะต้องพิจารณาดำเนินคดีตามขั้นตอน

 

ทั้งนี้ รายงานข้อมูลเส้นทางการเงินจากธนาคารจะถือเป็นจำนวนเงินที่มันมีความถูกต้อง 100% เราจะไม่ใช้เส้นเงินที่เกิดจากสื่อในโซเชียลมีเดีย เพราะมันใช้งานจริงไม่ได้ และในการสอบสวนเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้หลักฐานต้นทางจากธนาคารเท่านั้น ซึ่งคาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะทราบความคืบหน้า

 

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเผยอีกว่า สำหรับห้วงปีที่ DSI จะตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินของบรรดา 18 บอสนั้น เบื้องต้นจะไล่ย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2561-2563 แต่ต้องยอมรับในอุปสรรคปัญหาเล็กน้อยว่า ในปีดังกล่าวนี้อาจไม่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามา แต่ถึงอย่างไรธนาคารคงจะเร่งรัดดำเนินการให้ DSI อย่างแน่นอน อีกทั้ง DSI ก็ขอเส้นทางการเงินย้อนหลังไปตั้งแต่มีการเปิดบริษัทดังกล่าวอีกด้วย

 

ในการชี้แจงการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ หากผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างการคุมขังภายในเรือนจำหรือทัณฑสถาน DSI ก็ต้องเข้าไปสอบสวน และไม่เพียงเฉพาะบรรดาบอสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลอื่นๆ รอบข้างที่มีการรับโอนเงิน หรือรับทรัพย์สินจากกลุ่มดิไอคอนกรุ๊ป DSI จะต้องตรวจสอบทุกคน ดังนั้นจึงยังไม่ได้มีการออกหมายเรียกให้ใครมาชี้แจงข้อมูล

 

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเผยต่อว่า หาก DSI ได้รับข้อมูลเส้นทางการเงินจากธนาคารและตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จึงจะสามารถใช้ในการสอบปากคำได้ว่า “เงินจำนวนนี้คือเงินอะไร”, “คุณได้เงินจำนวนนี้มาได้อย่างไร” และ “คุณมีนิติสัมพันธ์กันอย่างไร” เป็นต้น เพื่อใช้พิจารณาต่อว่าส่วนนี้จะเป็นการฟอกเงินทางอาญาหรือไม่ DSI จึงมีความจำเป็นต้องไล่หลักฐานตรงนี้พร้อมยืนยันว่า การดำเนินการนี้คือเรื่องเร่งด่วนที่ DSI และธนาคารเข้าใจตรงกัน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X