วันนี้ (10 ตุลาคม) พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติมในคดีการฆาตกรรม พอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจทางอากาศบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จำนวน 6 จุด
พ.ต.อ. ไพสิฐ กล่าวว่าการขึ้นบินสำรวจวันนี้ เนื่องจากได้รับสำนวนจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แล้วเห็นว่าในคำให้การยังมีหลายประเด็นที่ขัดแย้งกันกับผู้ให้ถ้อยคำ
โดยทางดีเอสไอจะนำข้อมูลชุดนี้ไปประกอบสำนวนคดีและประกอบคำให้การบุคคล รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้ทำความเชื่อมโยงไว้แล้ว แต่จะต้องดูความสัมพันธ์ของข้อเท็จจริง
ทางด้าน พ.ต.ท. กรวัชร์ กล่าวเสริมว่าการบินสำรวจวันนี้จะดูจุดที่จับกุมตัวบิลลี่ เส้นทางการปล่อยตัวบิลลี่ และรายละเอียดเส้นทางต่างๆ ประกอบคำให้การ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนและนำมาวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะสามารถคำนวณช่วงเวลา ระยะทาง และนำมาเปรียบเทียบกับภาพกล้องวงจรปิดได้ ซึ่งเส้นทางที่สำรวจนี้น่าจะนำไปสู่การกระทำความผิดจนไปสู่การพบกระดูกของบิลลี่ และนำไปเชื่อมโยงกับคำให้การด้วย
สำหรับพื้นที่ทั้ง 6 จุดที่บินสำรวจนั้น ประกอบด้วย
1. ด่านเขามะเร็ว คือจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวบิลลี่ จับกุมด้วยความผิดฐานมีน้ำผึ้งป่า 6 ขวด
2. บริเวณแยกหนองมะค่า คือจุดที่เจ้าหน้าที่อ้างว่ามาปล่อยตัวบิลลี่ที่นี่ในช่วงเย็นวันที่ 17 เมษายน 2557 ก่อนบิลลี่จะหายตัวไป
3. สะพานแขวน จุดที่พบถังขนาด 200 ลิตรบรรจุชิ้นส่วนกระดูกบิลลี่
4. ไร่ชัยราชพฤกษ์ บ้านห้วยปลาดุก ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน ซึ่งเป็นไร่ที่มีชื่อของพี่ชายอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เป็นผู้ถือครองกว่า 100 ไร่
5. ห้วยคมกฤต เป็นพื้นที่ห้วยลึก
6. พื้นที่ใจแผ่นดิน พื้นที่พักอาศัยของชาวกะเหรี่ยงที่เคยถูกเผา
ส่วนบริเวณห้วยคมกฤตที่จะต้องบินสำรวจนั้นเป็นห้วยลึก ซึ่งยังเป็นประเด็นข้อสงสัยอยู่ว่าอาจจะนำไปสู่การหารถจักรยานยนต์ของบิลลี่ที่หายไปได้หรือไม่
สำหรับความคืบหน้าทางคดี ตอนนี้ยังต้องสอบปากคำอีก 20 ปาก ซึ่งจะรวมถึงการสอบปากคำกลุ่มเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตัวบิลลี่ด้วย และมั่นใจว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานได้แน่นหนา และจะทำคดีแล้วเสร็จก่อนวันที่ 3 ธันวาคมแน่นอน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์