วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้าคดี บุญ วนาสิน กับพวก โดย ศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ คดีระหว่าง อรเกศ ปัญญาเนตินาถ กับพวก ผู้กล่าวหา บุญ วนาสิน กับพวกรวม 16 คน
ผู้ต้องหาฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เหตุเกิดเมื่อประมาณปี 2553 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ต่างกรรมต่างวาระกัน ในท้องที่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง, แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 16,100,602,806 บาท
เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและมีค่าเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อพิจารณาคดีดังกล่าว และให้มีการรายงานผลการพิจารณาคดีดังกล่าวแก่อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษเพื่อมีความเห็น
โดยสำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็นและคำสั่งดังนี้
- สั่งฟ้อง จิดาภา พุ่มพุฒ ผู้ต้องหาที่ 2, ศิวิมล จาดเมือง ผู้ต้องหาที่ 3, จารุวรรณ วนาสิน ผู้ต้องหาที่ 4, นลิน วนาสิน ผู้ต้องหาที่ 5, อัจจิมา พาณิชเกรียงไกร ผู้ต้องหาที่ 6, ภาคย์ วัฒนาพร ผู้ต้องหาที่ 7, ภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา ผู้ต้องหาที่ 8, ธนภูมิ ชนประเสริฐ ผู้ต้องหาที่ 9, ณวรา กุญชร ณ อยุธยา ผู้ต้องหาที่ 10, มาสฤดี คณาพิทักษ์พงศ์ ผู้ต้องหาที่ 13, เนติวรรธน์ สุวรรณกูฏ ผู้ต้องหาที่ 14, นัญญากรณ์ ธรรมา ผู้ต้องหาที่ 15 และ ชัญญ์ญาณ์ พุฒิพงศ์ชญาห์ ผู้ต้องหาที่ 16
ตามข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 และ 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 พ.ศ. 2534 มาตรา 3, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4
- เห็นควรสั่งฟ้อง บุญ วนาสิน ผู้ต้องหาที่ 1, กชพร สุวรรณกูฏ ผู้ต้องหาที่ 11 และ ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ผู้ต้องหาที่ 12 ตามข้อกล่าวหาฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 และ 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 พ.ศ. 2534 มาตรา 3, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4
โดยผู้ต้องหาที่ 2-10 และที่ 13-16 ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งฟ้องนั้น พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-10 และที่ 13-16 ต่อศาลอาญาในวันนี้
ส่วน บุญ วนาสิน ผู้ต้องหาที่ 1, กชพร สุวรรณกูฏ ผู้ต้องหาที่ 11 และ ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ผู้ต้องหาที่ 12 ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งเห็นควรสั่งฟ้องนั้นยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง จึงได้แจ้งให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจัดการให้ได้ตัวมาดำเนินคดีภายในกำหนดอายุความ 15 ปีนับแต่วันกระทำความผิด ส่วนผลความคืบหน้าทางคดีเป็นประการใด สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบต่อไป