ระหว่างการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยที่ 2 วันนี้ (25 ก.ค.) หลังพรรคฝ่ายค้านอภิปรายเกี่ยวเนื่องกับการแก้ปัญหาภัยแล้งของรัฐบาลที่ขาดตกบกพร่อง และทำให้เกษตรกรจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ล่าสุด 18.40 น. ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงต่อสภาว่า
ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้ลงพื้นที่และดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีน้ำที่เหลือสำหรับการเพาะปลูกมาจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ประมาณ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังพอหล่อเลี้ยงชาวนาในภาคเหนือตอนล่างกับภาคกลางประมาณ 22 จังหวัด คาดว่าน้ำจะเดินทางมาถึงเขื่อนเจ้าพระยาโดยใช้เวลา 5-6 วัน ซึ่งจะสามารถเลี้ยงลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้ ส่วนพื้นที่นาในภาคกลาง น้ำที่มีอยู่สามารถใช้ได้ตลอดสิ้นเดือนสิงหาคม โดยขณะนี้ได้ลดการปล่อยน้ำจาก 45 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากมีฝนตกแล้ว และกรมอุตุนิยมวิทยายังระบุด้วยว่า ไม่เกินวันที่ 10 สิงหาคมจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความต้องการในการใช้น้ำจะค่อยๆ ลดลง
ส่วนพื้นที่การเกษตรในภาคอีสานถือว่าเสียหายหนัก เพราะฝนแล้งติดต่อกัน 2 เดือน ซึ่งทางกระทรวงได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือ โดยหาเมล็ดพันธุ์ในการปลูกใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมเตรียมเงินช่วยเหลือทั้งในส่วนของรัฐบาลและธนาคารเพื่อการเกษตร ส่วนราคาสินค้าการเกษตรกำลังอยู่ในระหว่างการปรึกษากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรต่อไปได้
นอกจากนี้ รมช. เกษตรฯ ยังเชื่อว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ จากปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า