วันนี้ (15 กันยายน) นพ.ระวี มาศฉมาดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แถลงข่าวว่า ตนเองพร้อมด้วย ส.ส. และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อีกบางส่วน ซึ่งขณะนี้ได้ร่วมกันลงรายชื่อเกินครึ่งแล้ว เพื่อเตรียมยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ตีความในการแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 83 และมาตรา 91 ที่ผ่านวาระ 3 ซึ่งผ่านการพิจารณาร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา
สำหรับเนื้อหาที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเบื้องต้น คือ
- การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ที่ผ่านมา เป็นการแก้ไขเกินวาระที่ 1 ตามญัตติของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยื่นขอแก้ไขเพียง 2 มาตรา คือ มาตรา 83 และมาตรา 91 แต่ท้ายที่สุดที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้พิจารณาแก้ไขในมาตรา 86 ด้วย โดยมองว่า จะเป็นการแก้ไขที่ไม่สมบูรณ์ เป็นการแก้เกมแล้วเปลี่ยนกติกาใหม่ ไม่เป็นไปตามวาระที่ 1
- การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีการแก้ไขเจตนารมณ์ที่สำคัญในระบบประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่ได้ผ่านประชามติมาแล้ว และยังเป็นการทำลายระบบจัดสรรปันส่วนผสมถือเป็นเจตนารมณ์สำคัญในรัฐธรรมนูญปี 2560 และเป็นการทำลาย ส.ส. พึงมี ซึ่งถือเป็นระบบยุติธรรมที่สุดในการป้องกันการผูกขาดและเผด็จการทางการเมือง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ยังผลให้คะแนนเสียงตกน้ำ โดยแก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นบัตร 2 ใบ จะทำให้คะแนนเสียงตกน้ำหมด
ทั้งนี้ ในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามองว่า เป็นการแก้ไขที่ลุกลี้ลุกลน ลวกๆ ตั้งแต่การเสนอญัตติวาระที่ 1 ขณะเดียวกันเมื่อครั้งการนัดประชุมของคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมผ่าน LINE ในเวลา 22.00 น. และแจ้งผ่าน SMS อีกครั้งในตอนเช้า จึงแสดงถึงการทำงานที่ลวกๆ
นอกจากนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเพิ่มมาตรา 86 เมื่อเข้าสู่การประชุมในวาระที่ 3 กลับไม่มีการแถลงร่างเดิมต่อที่ประชุมรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จึงต้องการให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาว่ากฎหมายที่มีข้อบกพร่องเช่นนี้ จะสมควรหรือไม่ที่จะกราบบังคมทูลให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย จึงขอให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 วรรคสอง
