เมื่อวานนี้ (3 เมษายน) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แนะพลเมืองอเมริกันสวมหน้ากากผ้าหรือทำการป้องกันใบหน้าก่อนออกจากที่พักอาศัย รวมถึงขณะอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ โดยยอดผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด คาดแตะ 3 แสนรายในไม่กี่วันข้างหน้า
ทรัมป์ได้ย้ำว่า นี่เป็นเพียงมาตรการที่เน้นความสมัครใจ ไม่ได้บังคับแต่อย่างใด
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีการหารือกัน และเป็นไปตามผลการประชุมร่วมกับกรมควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ประกอบกับสหรัฐฯ กำลังเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และมีผลงานวิจัยบ่งชี้ว่า โรคโควิด-19 อาจติดต่อกันผ่านละอองฝอยและสารคัดหลั่งต่างๆ
การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าจึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงตรงจุดนี้ ทั้งยังจะเป็นมาตรการที่ช่วยเสริมประสิทธิของการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยเฉพาะในพื้นที่ที่จำกัด และจำเป็นต้องอยู่ใกล้กับคนจำนวนมาก อาทิ ห้างสรรพสินค้า
โดยสาธารณสุขสหรัฐฯ ทำการตรวจหาการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปแล้วกว่า 1.4 ล้านราย พบผู้ติดเชื้อคิดเป็น 18.5% ของผู้ได้รับการตรวจทั้งหมด ทั้งยังรั้งอันดับ 1 ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดขณะนี้ ตามมาด้วยอิตาลีและสเปน
ภาพ: Win McNamee / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: