รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization: UNESCO) หลังกล่าวหาว่าเป็นองค์กรที่มีแนวความคิดต่อต้านอิสราเอล ชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ ภายหลังจากที่ UNESCO ให้ความเป็นสมาชิกภาพโดยสมบูรณ์แก่ดินแดนปาเลสไตน์เมื่อปี 2011
ด้านนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล กล่าวชื่นชมการกระทำของสหรัฐฯ ว่าเป็นการกระทำที่กล้าหาญ มีศีลธรรม และตัดสินใจจะประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกของสหประชาชาติตามสหรัฐฯ
ทำให้นางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่ของ UNESCO ได้ออกมาเผยความรู้สึกต่อการประกาศลาออกของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอย่างอิสราเอลว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียใจที่สุด เพราะอาจกระทบกับความร่วมมือต่างๆ ที่สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนสำคัญหรือมีความเกี่ยวข้อง
โดยการถอนตัวของสหรัฐฯ ในครั้งนี้จะมีผลราวเดือนธันวาคม ปี 2018 ซึ่งก่อนที่จะถึงช่วงเวลานั้น สหรัฐฯ ยังมีสถานะเป็นสมาชิกเต็มตัว ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ จะแต่งตั้งทีมภารกิจสังเกตการณ์ขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่แทนกลุ่มผู้แทนเดิมที่ประจำอยู่ใน UNESCO และอาจจะมีแนวโน้มถอนตัวจากทบวงการชำนัญพิเศษของสหประชาติที่ให้สิทธิแก่ดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งสำคัญของอิสราเอลอีกในอนาคต
นับเป็นการถอนตัวจากความร่วมมือระหว่างประเทศอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณพร้อมลาออกจากการเป็นไตรภาคีในความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ระเบียบโลกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่อยู่ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นอย่างไรในอนาคตก็ยากที่จะคาดเดา
Photo: AFP
อ้างอิง: