วันนี้ (31 สิงหาคม) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และ โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตวิวาทะเดือดเหตุประท้วงในพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจจากกรณี จาค็อบ เบลก ชายเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันถูกตำรวจยิงจากทางด้านหลัง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่เมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงที่เมืองพอร์ตแลนด์แล้วอย่างน้อย 1 ราย พร้อมกับความตึงเครียดที่ขยายตัวเป็นวงกว้างเพิ่มมากขึ้น
โดยไบเดนได้ประณามเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ทรัมป์แสดงจุดยืนจากกรณีที่เกิดขึ้น “ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่เมืองพอร์ตแลนด์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ผมขอประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้ รวมถึงความรุนแรงในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากใคร จากฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวาก็ตาม และผมขอท้าให้ โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงจุดยืนเดียวกันนี้ด้วย”
ทางด้านผู้นำสหรัฐฯ ชี้ ไบเดน อ่อนแอเกินกว่าที่จะจัดการกับปัญหาอาชญากรรม พร้อมชวนพลเมืองอเมริกันตั้งคำถามถึงเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอยู่ในตอนนี้ สะท้อนถึงการจัดการปัญหาอย่างไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมทวีตข้อความถึงกลุ่มผู้สนับสนุนของตนว่าเป็นผู้รักชาติที่ยิ่งใหญ่ ‘GREAT PATRIOTS’
ขณะที่ไบเดนระบุว่า “ทรัมป์เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการใช้ความรุนแรง เขาเชื่อว่าการทวีตข้อความเกี่ยวกับกฎหมายและกฎระเบียบจะช่วยทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น แต่ความล้มเหลวของเขาที่จะหยุดยั้งกลุ่มผู้สนับสนุนไม่ให้ใช้ความรุนแรง ก็สะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าตัวเขาเองอ่อนแอแค่ไหน” โดยไบเดนจะชวนพลเมืองอเมริกันตั้งคำถามกลับ “คุณรู้สึกปลอดภัยแค่ไหนขณะอยู่ในสหรัฐฯ ที่มี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำประเทศ”
ด้าน เคท บราวน์ ผู้ว่าการรัฐออริกอนจากพรรคเดโมแครต ระบุว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการแบ่งแยกและใช้ความรุนแรงภายในชาติ ทั้งเหตุจลาจลที่ชาร์ลอตส์วิลล์ ก่อนจะมาเป็นที่เคโนชา และพอร์ตแลนด์ในช่วงเวลานี้”
โบเดน ระบุ “โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาเกือบ 4 ปี อุณหภูมิภายในประเทศคุกรุ่นขึ้น ตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น แบ่งแยกแตกร้าวมากขึ้น พวกเราทุกคนปลอดภัยน้อยลง เพราะ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่มีความสามารถที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
โดยประเด็นความรุนแรงที่ยึดโยงอยู่กับกลุ่มต่อต้านการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติในสหรัฐฯ จะเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
ภาพ: Chip Somodevilla / Drew Angerer / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: