×

‘แพทย์ x AI’ คู่หูคู่ใหม่แห่งวงการสาธารณสุขไทย ที่จะปฏิวัติข้อจำกัดการรักษาได้แบบพลิกฝ่ามือ [ADVERTORIAL]

30.06.2025
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • AI จะกลายเป็น ‘ผู้ช่วยแพทย์’ และลดภาระงานเอกสารที่เคยใช้เวลามหาศาลของแพทย์ กว่า 70% ทำให้แพทย์มีเวลาดูแลและพูดคุยกับผู้ป่วยได้มากขึ้น
  • เทคโนโลยี AI สามารถวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์และตรวจพบโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งได้ล่วงหน้าก่อนการวินิจฉัยจริงถึง 5 ปี
  • AI ช่วยลดระยะเวลาในกระบวนการรักษาผู้ป่วย และยังช่วยเร่งการค้นคว้าวิจัยยาตัวใหม่จากที่เคยใช้เวลา 4-5 ปี ให้เหลือเพียง 1 ปี
  • เปิดประตูสู่บริการสุขภาพจิต 24 ชั่วโมง ผ่านแอปพลิเคชันที่สามารถประเมินภาวะซึมเศร้าเบื้องต้นด้วยความแม่นยำสูง และแชตบอตที่พร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยในยามวิกฤต ลดปัญหาการรอคิวพบจิตแพทย์เป็นเวลานาน

AI กำลังพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการสาธารณสุขไทยได้อย่างแท้จริง ในฐานะ ‘ผู้ช่วย’ ที่ทรงพลัง ช่วยลดภาระงาน ตั้งแต่การช่วยงานเอกสาร การวินิจฉัยโรคที่ซับซ้อน การเร่งกระบวนการรักษา ไปจนถึงการเป็นเพื่อนดูแลสุขภาพใจ

 

Bangkok AI Week 2025 เปิดประเด็นการยกระดับวงการสาธารณสุขไทย ภายใต้ธีมเสวนา ‘AI for Precision Health: Caring for People and the Planet’ ซึ่งได้รับเกียรติจาก รศ. พญ.โสฬพัทธ์ เหมรัญช์โรจน์ รองคณบดี ฝ่ายนวัตกรรมแนวบูรณาการและเทคโนโลยีดิจิทัล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ศศินันท์ วรเกรียงไกร VP, Business Development, Perceptra และ จิรเมธ คิญชกวัฒน์ AI Engineer, CARIVA (Thailand) Co., Ltd. มาร่วมฉายภาพอนาคตที่น่าตื่นเต้นว่า AI กำลังเข้ามาแก้ปัญหาคอขวดภายในแวดวงการแพทย์ได้อย่างไรบ้าง

 

 

ทวงแพทย์คืนจากงานเอกสาร สู่การดูแลผู้ป่วยเต็มรูปแบบ

 

จากข้อมูลพบว่าแพทย์มีเวลาพูดคุยกับผู้ป่วยจริงๆ เพียง 26% จากเวลาทั้งหมดที่ใช้ในกระบวนการรักษา รวมทั้งยังหมดเวลาไปกับงานเอกสาร และการบันทึกข้อมูล ทำให้เกิดความเหินห่างระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย

 

แต่เทคโนโลยี AI ด้านการประมวลผลเสียงพูด (Automatic Speech Recognition) กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ โดย AI สามารถช่วยฟังบทสนทนาระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย แล้วถอดเสียงและสรุปข้อมูลสำคัญเพื่อลงในระบบเอกสารได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดเวลาในส่วนนี้ลงได้กว่า 70% การปลดล็อกเวลาจากงานเอกสารนี้จะทำให้แพทย์สามารถทุ่มเทเวลาและสมาธิให้กับการตรวจวินิจฉัยและดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

 

ศศินันท์ วรเกรียงไกร

VP, Business Development, Perceptra

 

ขยายขีดจำกัดการวินิจฉัยและรักษา

 

ความสามารถในการวินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำคือหัวใจของการแพทย์ที่ทั่วโลกเร่งพัฒนา

 

หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าทึ่งคือการที่ให้ AI อ่านฟิล์มเอ็กซเรย์ย้อนหลังของผู้ป่วยมะเร็ง พบว่า AI สามารถตรวจพบร่องรอยของโรคได้ล่วงหน้าก่อนที่แพทย์จะวินิจฉัยถึง 5 ปี เนื่องจาก AI สามารถมองเห็นรอยโรคขนาดเล็กที่อาจซ่อนอยู่หลังอวัยวะอื่น ซึ่งสายตามนุษย์อาจมองข้ามไป โดยในทางปฏิบัติ แพทย์อาจเพียงคลิกปุ่มเดียวเพื่อให้ AI ช่วยแสดงความเห็น และหาก AI ตรวจพบบางอย่างที่น่าสงสัย ก็จะเป็นการกระตุ้นให้แพทย์สั่งตรวจด้วย CT Scan เพิ่มเติมเพื่อยืนยันผล

 

นอกจากนั้น ยังมีนวัตกรรม AI ช่วยอัลตราซาวด์ตับที่สามารถจำแนกชนิดของก้อนเนื้อในตับได้ถึง 7 ชนิด และมีความแม่นยำสูงถึง 95% ซึ่งจากการนำไปออกหน่วยตรวจจริงในชุมชน สามารถตรวจพบผู้ป่วยมะเร็งได้ตั้งแต่การออกหน่วยครั้งที่สอง สิ่งนี้เป็นการนำความเชี่ยวชาญจากโรงเรียนแพทย์ไปสู่โรงพยาบาลชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

จิรเมธ คิญชกวัฒน์

AI Engineer, CARIVA (Thailand) Co., Ltd.

 

ลดกระบวนการรักษา – เร่งสปีดการพัฒนายาแบบก้าวกระโดด

 

นอกจากการวินิจฉัยแล้ว AI ยังเข้ามาเร่งกระบวนการรักษาให้เร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่น การตรวจคัดกรองวัณโรค ที่ในอดีตกระบวนการตั้งแต่วันแรกที่ผู้ป่วยเข้ามาตรวจจนถึงวันที่ได้รับยาโดสแรกใช้เวลาถึง 21 วัน แต่เมื่อนำ AI เข้ามาช่วยในระบบ ทำให้สามารถลดระยะเวลาทั้งหมดลงเหลือเพียง 3 วัน

 

ในฝั่งของการพัฒนายา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาและต้นทุนมหาศาล โดยปกติการพัฒนายาหนึ่งตัวอาจใช้เวลา 10-15 ปี แต่ AI สามารถลดขั้นตอนการวิจัยเบื้องต้นจากที่เคยใช้เวลา 4-5 ปี ให้เหลือเพียงประมาณ 1 ปี และยังเพิ่มโอกาสความสำเร็จของยาในเฟสการทดสอบความปลอดภัย จากราว 50% ให้สูงกว่า 90% เพราะ AI สามารถทำนายความเป็นพิษของยาได้ดีกว่าเดิม

 

เปิดประตูสู่สุขภาพจิตที่ดีตลอด 24 ชั่วโมง

 

ปัญหาสุขภาพจิตเป็นอีกหนึ่งความท้าทายใหญ่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่สูงและคิวรอพบจิตแพทย์ที่อาจนานถึง 6 เดือน มีการนำเสนอนวัตกรรมอย่างแอปพลิเคชันที่ใช้ AI วิเคราะห์สีหน้า น้ำเสียง และข้อความ เพื่อประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยความแม่นยำถึง 85% นอกจากนี้ เทคโนโลยีแชตบอตยังถูกพัฒนาให้สามารถเป็น ‘เพื่อนคุย’ ให้คำปรึกษาเบื้องต้น ซึ่งผู้ใช้งานจำนวนมากรู้สึกสบายใจที่จะระบายความรู้สึกกับ AI เพราะรู้สึกว่า AI เข้าใจและไม่ตัดสินพวกเขา ที่สำคัญคือ AI พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเป็นที่พึ่งในยามวิกฤตที่ผู้ป่วยอาจไม่สามารถรอพบแพทย์ได้

 

รศ. พญ.โสฬพัทธ์ เหมรัญช์โรจน์

รองคณบดี ฝ่ายนวัตกรรมแนวบูรณาการและเทคโนโลยีดิจิทัล

คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

แม้ศักยภาพของ AI จะน่าทึ่ง แต่การนำมาใช้จริงในวงกว้างยังมีความท้าทายอยู่มาก ‘ข้อมูล’ และ ‘ความร่วมมือ’ คือสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจ

 

การสร้างมาตรฐานข้อมูลของประเทศและการส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนคือภารกิจสำคัญเร่งด่วน เพื่อนำพาระบบสาธารณสุขไทยไปสู่ยุคใหม่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและแม่นยำได้อย่างเท่าเทียม

 

ติดตาม Bangkok AI Week 2025 และแนวทางพลิกอนาคตธุรกิจไทยได้ที่ Facebook: ETDA Thailand

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising