วันนี้ (8 ธันวาคม) ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี ตรวจสอบการประกาศขายซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดหนังเสือลายเมฆ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ ‘สมาคมนักนิยมผู้สะสมเครื่องรางของขลังของทนสิทธิ์’
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้สายลับติดต่อขอซื้อซากหนังเสือลายเมฆในราคา 10,000 บาท โดยนัดรับของบริเวณท้องที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวและมี จิตติพงศ์ (สงวนนามสกุล) ได้นำกล่องกระดาษจำนวน 1 กล่องมาวาง และได้นำซากหนังเสือลายเมฆออกมาให้สายลับตรวจสอบดู พบว่าเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่เฝ้าสังเกตและเห็นเหตุการณ์โดยตลอดเข้าตรวจยึด-จับกุมพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดหนังเสือลายเมฆ จำนวน 1 ซาก (ลักษณะสมบูรณ์) อุปกรณ์การกระทำผิด กล่องกระดาษ จำนวน 1 กล่อง
ซึ่ง จิตติพงศ์ ให้การว่าตนเองมีอาชีพรับซื้อ-ขายพระ ได้ซื้อหนังเสือลายเมฆมาจากตลาดแผงพระกอบกุลที่จังหวัดราชบุรี ในราคาผืนละ 6,000 บาท แล้วนำประกาศขายในเฟซบุ๊กตัวเองในราคา 10,000 บาท โดยไม่มีเอกสารหลักฐานการได้มาของทางราชการแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 17 ฐานมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี มาตรา 29 ฐานค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ประกอบมาตรา 112 และมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 จึงควบคุมตัวจิตติพงศ์ พร้อมตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับเสือลายเมฆเป็นเสือขนาดเล็ก มีลายสีน้ำตาลเข้มเป็นดวงเหมือนก้อนเมฆขนาดใหญ่ทั่วตัว ชอบอาศัยและพักผ่อนบนต้นไม้ เป็นนักปีนชั้นเยี่ยม โดยปกติเสือลายเมฆชอบอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้นเขตร้อนที่คงความบริสุทธิ์มาก และหนังที่สวยงามของเสือลายเมฆเป็นที่ต้องการในตลาดขนสัตว์เป็นอย่างมาก
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า