วันนี้ (1 มิถุนายน) ประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน กรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีความประสงค์ที่จะจัดซื้อวัคซีนทางเลือก (โควิด-19) จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมีการให้ข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ สตง.
ประจักษ์ระบุว่า กรณีดังกล่าวอาจเป็นปัญหาที่ สตง. จะตรวจสอบว่าเป็นการใช้เงินผิดประเภทนั้น จึงขอชี้แจงว่า สตง. ยังคงยืนยันเจตนารมณ์เดิมนับตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อต้นปี 2563 ซึ่ง สตง. ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอดว่า สตง. ตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ สตง. จึงพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินการใดๆ ที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ดังกล่าวด้วยความสุจริตและโปร่งใส
ประจักษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันมีความจำเป็นต้องจัดหาและฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ดังนั้น ไม่ว่า อปท. ภาคเอกชน หรือหน่วยงานใดที่ประสงค์จะเข้ามาช่วยรัฐบาลในการจัดซื้อวัคซีน การกระจายวัคซีน การฉีดวัคซีน และการดูแลประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบหรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนถือเป็นเรื่องที่ดีและควรต้องเร่งดำเนินการ
ส่วนประเด็นการเบิกจ่ายเงินให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นเรื่องที่ สตง. พร้อมให้คำแนะนำ ตอบข้อสงสัย หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานที่มีความตั้งใจและพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน สิ่งที่รัฐบาล หรือ ศบค. ต้องเร่งพิจารณาตัดสินใจให้ชัดเจนคือ จะมีนโยบายและข้อสรุปในเรื่องนี้อย่างไร และชี้แจงหรือสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการดำเนินการของภาครัฐ ทั้งในภาพรวมของประเทศและในระดับพื้นที่
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล