3 ชั่วโมง 37 นาที คือระยะเวลาที่ โนวัค ยอโควิช ใช้ในแมตช์รอบก่อนรองชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพน ที่เขาเอาชนะ คาร์ลอส อัลคาราซ 3-1 เซ็ต ด้วยสกอร์ 4-6, 6-4, 6-3 และ 6-4 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งที่ 50 ในประวัติศาสตร์การเล่นแกรนด์สแลม และเป็นนักเทนนิสคนแรกที่พาตัวเองมาถึงสถิตินี้ได้สำเร็จด้วย
หากใครได้ดูเกมระหว่างโนเล่กับอัลคาราซ เชื่อว่าก็น่าจะรู้สึกคล้ายๆ กันที่เกมนี้ ‘สั้น’ กว่าที่คิด เพราะเกมค่อนข้างสนุก ไหลลื่น และเต็มไปด้วยสิ่งที่แฟนเทนนิสน่าจะชื่นชอบ โดยเฉพาะรายละเอียดในเกมที่มีทั้งพละกำลังและแท็กติกเข้ามาเกี่ยวข้องไม่น้อยเลย
แม้จะเป็นแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนมาแล้วถึง 10 สมัย และได้รับเสียงเชียร์อย่างล้นหลาม แต่ยอโควิชก็ถูกมองว่าเป็นรองอัลคาราซในหลายๆ ด้าน ทั้งอายุที่มากกว่าและฟอร์มการเล่นที่เป็นรอง โดยเฉพาะในทัวร์นาเมนต์นี้ที่เสียเซ็ตในรอบแรกๆ แบบไม่น่าเสียถึง 2 แมตช์
และเกมนี้ก็ดูเหมือนจะเข้าทางอัลคาราซมากกว่าจริงๆ เพราะในเซ็ตแรก โนเล่พยายามเล่นด้วยความอดทน ใช้กลยุทธ์เดียวกับเกมนัดชิงชนะเลิศในโอลิมปิกเกมส์ 2024 นั่นคือการเล่นเทนนิสแบบอนุรักษนิยม เล่นเกมจากเบสไลน์และปล่อยให้อัลคาราซตีพลาดเอง ทว่านักหวดวัย 21 ปีจากสเปนก็เรียนรู้ว่าต้องบุกก่อนเพื่อคุมเกม เขายิงวินเนอร์ไปถึง 13 ครั้ง ก่อนที่สถานการณ์ของโนเล่จะน่าเป็นห่วงกว่าเดิม เมื่อเขาถูกบังคับให้ออกจากสนามเพื่อพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ และเมื่อกลับมาเล่นต่อได้ไม่กี่นาทีก็ต้องเสียเซ็ตไป
หลังจาก 10 เกมในเซ็ตแรก ยอโควิชรู้ด้วยประสบการณ์เทนนิสร่วม 20 ปีว่า เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแท็กติก เขาไม่สามารถใช้กลยุทธ์แบบที่วางแผนไว้ก่อนแข่งขันได้อีกด้วย 2 เหตุผล คือ 1. อัลคาราซเล่นได้ดีเกินกว่าที่เขาจะตั้งรับได้ และ 2. เขามีอาการบาดเจ็บ ซึ่งมันเสี่ยงเกินไปที่จะเล่นเทนนิสแบบอนุรักษนิยม
สิ่งที่เราได้เห็นในเซ็ตที่ 2 เป็นต้นไป จึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ เพราะเราได้เห็นยอโควิชเล่นเทนนิสแบบอัลคาราซ เพื่อมาสู้กับอัลคาราซ!
จาก 3 วินเนอร์ในเซ็ตแรก กลายเป็น 11 วินเนอร์ในเซ็ตที่ 2 และกระแสเกมก็ค่อยๆ ไหลมาทางยอโควิชแบบช้าๆ ชนิดที่อัลคาราซเองก็ไม่รู้สึกตัว และเมื่อรู้ตัวเองอีกที ดาวรุ่งชาวสเปนก็อยู่ภายใต้การควบคุมของจอมเก๋าชาวเซิร์บไปแล้ว
โดยหลังแมตช์ อัลคาราซออกมายอมรับด้วยตัวเองว่า ความผิดพลาดของเขาคือการที่เขาคิดว่าตัวเองคุมเกมได้ และปล่อยให้กระแสเกมค่อยๆ ไหลไปทางยอโควิช
อัลคาราซกล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าตัวเองควบคุมเกมได้ และปล่อยให้เขากลับมาอีกครั้ง
“ผมต้องบอกว่า นั่นคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่ผมทำ”
ในเซ็ตที่ 3 เราจึงเห็นเกมที่อัลคาราซพยายามดิ้นรนเพื่อหนีออกมาจากการเล่นของยอโควิช ที่ตอนนั้นควบคุมเกมไว้อย่างสมบูรณ์
อัลคาราซพยายามฝืนยิงวินเนอร์ในจังหวะเสี่ยงๆ หลายครั้ง เพื่อหวังจะกลับมาเล่นในเกมที่ตัวเองถนัด คือเป็นฝั่งคุมเกมบุก แต่นั่นก็ทำให้เขาตีเสีย Unforced Errors ไปถึง 11 ลูก ตรงข้ามกับโนเล่ที่จำนวนการตีเสียเองลดลงมาเหลือแค่ 4 ครั้งในเซ็ตนี้ ซึ่งยังไม่รวมกับจังหวะ Forced Errors ที่โนเล่บังคับให้อัลคาราซผิดพลาดเป็นระยะ
โนเล่แสดงให้เห็นว่า เขาควบคุมเกมได้เกือบ 100% ในช่วงปลายเซ็ตที่ 3 ที่เขาถูกเบรกเสิร์ฟ จนเกมกลับมาออนเสิร์ฟกันอีกครั้ง แต่ในเกมต่อมา นักหวดชาวเซิร์บเบรกเสิร์ฟอัลคาราซได้ง่ายๆ แบบสกอร์ 0 ก่อนปิดเซ็ตนำ 2-1 เซ็ต
ในเซ็ตที่ 4 ยอโควิชเปิดฉากด้วยการเบรกเกมเสิร์ฟอัลคาราซ และกุมความได้เปรียบไปก่อน เหมือนอาศัยความเมาหมัดจากปลายเซ็ตที่ 3 ของนักหวดชาวสเปนให้เป็นประโยชน์ แต่ที่ต่างออกไปคือในเซตนี้ โนเล่กลับมาเล่นเกมแบบอนุรักษนิยมอีกครั้ง
เขาพยายามปล่อยให้อัลคาราซเป็นฝ่ายบุก ขณะที่ตัวเองนำอยู่ทั้งจำนวนเซ็ตและจำนวนเกม ส่งผลให้อัลคาราซต้องเสี่ยงมากขึ้น แต่ตลอดเซ็ต โนเล่ตีเสียเองแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
ยอโควิชกับอัลคาราซมีเกมที่ยอดเยี่ยมในกลางเซ็ตสุดท้ายที่ทั้งคู่เล่นแต้มคุณภาพกันมากมาย ทำให้แฟนๆ ได้เห็นการเล่น 2 เกม 10 แต้ม 8 นาที และช็อตแรลลี 33 ครั้ง ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างทำได้ยอดเยี่ยม
โดยการแรลลี 33 ช็อต จบลงด้วยชัยชนะของอัลคาราซ และเขายิ้มออกมาเมื่อไม่ต้องพลาดท่าเสียอีก 1 เกมเสิร์ฟ แต่ยอโควิชที่แม้ตอนนั้นจะคุมเกมไว้ได้เกือบสมบูรณ์กลับแสดงความโมโหออกมาอย่างชัดเจน เพราะเขารู้ดีว่าการขึ้น 5-3 และตัวเองจะได้เสิร์ฟเพื่อปิดเซ็ตสำคัญขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม แม้หลังจากนั้นอัลคาราซจะเล่นได้มั่นใจขึ้นในเกมเสิร์ฟของตัวเอง แต่โนเล่ก็ปิดแมตช์เอาชนะไปได้ด้วยการเน้นในเกมเสิร์ฟของเขาเช่นกัน
“ผมแค่หวังว่าแมตช์นี้จะเป็นนัดชิงชนะเลิศ” ยอโควิชกล่าวในการให้สัมภาษณ์บนคอร์ตหลังจบแมตช์ “เป็นหนึ่งในแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเล่นในสนามนี้ หรืออันที่จริง ไม่ว่าในสนามไหนก็ตาม”
ชัยชนะเหนืออัลคาราซยังแสดงให้เห็นว่า ร็อดเลเวอร์อารีนายังเป็นเหมือนสวนหลังบ้านของยอโควิชเสมอ และมันอาจจะเร็วเกินไปที่จะกาชื่อเขาทิ้งจากเทนนิสระดับแกรนด์สแลม แม้ว่าฟอร์มของเขาจะไม่ได้คงเส้นคงวาเหมือนสมัยก่อนก็ตาม
หลังแมตช์โนเล่ยังยอมรับว่า เขากังวลเรื่องอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในเกมนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่า “ผมกังวลเรื่องร่างกาย แต่ถ้าผมสามารถจัดการให้ร่างกายพร้อมได้ ผมก็พร้อมทั้งจิตใจและอารมณ์อย่างเต็มที่แล้ว”
โชคดีของยอโควิชที่เทนนิสชายเดี่ยวจะกลับมาแข่งขันรอบรองชนะเลิศอีกครั้งในวันศุกร์ นั่นหมายความว่า เขาจะมีเวลากว่า 2 วันเต็มๆ ในการพักฟื้นร่างกาย เพื่อให้พร้อมที่สุดก่อนจะเจอกับ อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ นักหวดมือ 2 ของโลก
แต่เมื่อมองจากฟอร์มในแมตช์ที่เขาล้มอัลคาราซมาแล้วก็คงต้องพูดว่า ถึงตอนนี้อันดับมือวางก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขลวงเท่านั้น
และนักเทนนิสทุกคนที่เจอกับยอโควิชคงต้องเล่น Perfect Tennis หรือใกล้เคียงกับคำนั้นให้มากที่สุด ถึงจะสามารถผ่านราชาแห่งร็อดเลเวอร์อารีนาคนนี้ไปได้
อ้างอิง:
- https://www.nytimes.com/athletic/6077461/2025/01/21/carlos-alcaraz-novak-djokovic-australian-open-result-analysis/
- https://www.foxsports.com.au/tennis/dont-be-fooled-the-king-of-melbourne-park-looked-busted-early-in-an-epic-but-it-is-wise-to-never-write-of-novak/news-story/918394457236ab269887e63657906762
- https://www.skysports.com/tennis/news/31870/13293416/novak-djokovic-serbian-defeats-carlos-alcaraz-to-remain-on-course-for-11th-australian-open-title-and-25th-grand-slam
- https://www.bbc.com/sport/tennis/articles/cvg8nz90xkjo