คนไทยส่วนใหญ่อาจเคยชินกับเทศกาลฉลองปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคมตามปีปฏิทินแบบชาวตะวันตก หรือคุ้นเคยกับการรดน้ำดำหัวในเทศกาลสงกรานต์แบบไทย หรือกระทั่งการไหว้ขอพรตามศาลเจ้าต่างๆ ในช่วงวันตรุษจีน
แต่สำหรับชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูจะมีการเฉลิมฉลอง ‘เทศกาลปีใหม่’ ที่เรียกว่ายิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้เทศกาลอื่นๆ โดยเทศกาลนี้มีชื่อว่า ‘ดิวาลี’ หรือ ดีปาวาลี มักจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญที่สุดในปฏิทินของชาวฮินดู
เป็นเวลา 103 ปีที่วัดวิษณุ ย่านสาทรของประเทศไทย ซึ่งเป็นวัดของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเพียงหนึ่งเดียวในเอเชียอาคเนย์ ได้ร่วมจัดงานดิวาลี เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เหมือนทุกปี ตั้งแต่แสงแรงของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 จนถึงช่วง 02.00 น.
สำหรับวัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2463 โดยชาวอินเดีย มีเทวรูปศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนและแกะสลักด้วยมือจากประเทศอินเดียครบ 24 องค์
ช่วงเวลาดังกล่าวมีชาวอินเดียและชาวไทย-เชื้อสายอินเดียสวมเสื้อผ้าชุดใหม่สีสันสดใสทยอยเดินทางมาร่วมฉลองเทศกาลแห่งไฟ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่และการทำสิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต
การจัดงานเทศกาลดังกล่าวยังถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพราะมีชาวฮินดูและผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูมาร่วมงานเฉลิมฉลอง
นอกจากประเทศอินเดียยังมีอีกหลายประเทศที่ร่วมเฉลิมฉลองวันดิวาลีและจัดให้เป็นวันหยุดราชการ เช่น เนปาล, ศรีลังกา, เมียนมา, มาเลเซีย, สิงคโปร์, มอริเชียส, กายอานา, ตรินิแดดและโตเบโก, ซูรินาเม รวมทั้งฟิจิ ซึ่งตามท้องถนนของประเทศเหล่านี้จะประดับประดาไฟสีสันต่างๆ จำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
