วันนี้ (28 กุมภาพันธ์) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การประชุมในวันนี้มีวาระในการประชุมหลายวาระรวมกว่า 40 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่จะต้องดูแลประชาชน โดยเฉพาะเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับการอนุมัติไปแล้ว ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนการพิสูจน์หลักฐานต่างๆ คาดว่าใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยตั้งเป้าว่าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 เมษายน
“จะดูแลประชาชนของเราให้ดีที่สุดแม้จะอยู่ในช่วงปลายรัฐบาลก็ตาม ขอร้องและให้ได้ร่วมมือกันกับพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้วในทุกๆ เรื่อง ขอความร่วมมือ” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่าได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มให้แก่นายกรัฐมนตรีไปแล้วนั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ทราบมาโดยตลอดว่ามีการดำเนินการไปถึงกระบวนการไหน แต่ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งเราไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ แม้ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถก้าวล่วงได้ หากมีข้อกล่าวหาให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้มีการตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานต่อไป แต่ในส่วนของรัฐมนตรีที่ได้อนุมัติหลักการไป ที่ได้นำเข้าการพิจารณานั้น กระทรวงก็ต้องรับผิดชอบ การทำงานในส่วนของกระทรวงมีระดับในการทำงานอยู่ โดยจะมีผู้รับผิดชอบในแต่ละระดับกันไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีความข้องใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของชูวิทย์ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผม วันนี้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี มีความจำเป็นต้องรักษาความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันมากกว่า 4 ปี แต่ในส่วนของพรรคการเมืองก็จะไม่ให้ไปก้าวล่วงใครทั้งสิ้น เราต้องมีความเป็นสุภาพบุรุษ และต้องอยู่ในกติกา ใครจะว่าอะไรผม ผมก็เฉยๆ เพราะถือว่าเป็นเรื่องของการหาเสียง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ประยุทธ์กล่าวว่า มีการพูดกันอยู่ตลอดเวลา และยังคงเคารพเหมือนเดิม แม้ใครจะพูดอะไรก็ว่ากันไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสามารถพูดได้หรือไม่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคพลังประชารัฐยังคงเป็นพรรคร่วมอยู่เหมือนเดิม พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ให้รอผลการเลือกตั้ง เรื่องของพรรคการเมืองให้ประชาชนที่เลือกเข้ามา แต่การที่จะเข้าร่วมรัฐบาลนั้นค่อยพูดคุยกันทีหลัง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ. ประวิตร ถึงกระแสข่าวการจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า “ยังไม่ได้ถามท่านหรอก เป็นสิทธิของท่าน แต่ท่านก็บอกว่ายังไม่ได้พูดว่าจะจับมือกับใคร ยังไม่ได้สัญญาอะไรกับใครไว้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประยุทธ์จะลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า “ขอไม่ตอบ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการยุบสภาว่าเป็นวันที่ 21 มีนาคมใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า “นั่นมันเป็นวันเกิดของผมไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องยุบในวันเกิดของผมละ”
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าเพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิด พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า “การยุบสภาเป็นของขวัญวันเกิด เพราะคนเขารังเกียจผมหรือไง จะยุบสภา เอาผมออกไปเป็นของขวัญ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นวันที่ 20 มีนาคมใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่าวันยุบสภาคือวันไหนก็วันนั้น ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า หากเป็นวันที่ 8 มีนาคมจะถือว่าเร็วเกินไปหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวด้วยท่าทีทีเล่นเล่นทีจริงว่า “พรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
