บริษัท วอลต์ ดิสนีย์ (The Walt Disney Co.) ประสบความสำเร็จอีกครั้งในตลาดภาพยนตร์โลก หลังจาก ‘Zootopia 2’ เตรียมทำรายได้รวมทั่วโลกทะลุระดับ 1 พันล้านดอลลาร์ กลายเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องที่สองของปี 2025 ที่สามารถแตะหลักดังกล่าวได้ ต่อจากภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันรีเมก อย่าง Lilo & Stitch
โดยบริษัท ประเมินว่า รายได้รวมของ Zootopia 2 จะถึงระดับ 1 พันล้านดอลลาร์อย่างเป็นทางการภายในวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค. นี้ หลังจากช่วงก่อนเข้าสู่ช่วงสุดสัปดาห์ ภาพยนตร์ทำรายได้ไปแล้ว 232.7 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ และแคนาดา และจากตลาดต่างประเทศอีก อีก 753.4 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดรวมทั่วโลกเข้าใกล้หลักพันล้านดอลลาร์อย่างรวดเร็ว จาเร็ด บุช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ของ Walt Disney Animation Studios ระบุในแถลงการณ์ว่า ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสำคัญกับบริษัทมาก เพราะสะท้อนให้เห็นว่าผู้ชมทั่วโลกยังคงเลือกออกมาสัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์ร่วมกันในโรง ซึ่งสะท้อนได้ว่าคนทุกเพศทุกวัยจากทั่วโลกยังคงต้องการประสบการณ์บนจอใหญ่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2025 ภาพยนตร์ เพียงเรื่องเดียวที่ทำรายได้สูงกว่า Zootopia 2 คือ Ne Zha 2 จากประเทศจีน ซึ่งกวาดรายได้ไปแล้วราว 2.2 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เข้าฉายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Comscore
ชอว์น ร็อบบินส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ของ Fandango และผู้ก่อตั้ง Box Office Theory กล่าวว่า ในบริบทของตลาดภาพยนตร์โลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่ภาพยนตร์สามารถทำรายได้ถึงระดับ 1 พันล้านดอลลาร์ได้ กลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก และถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นเป็นพิเศษ
อีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนความสำเร็จของ Zootopia 2 คือ ตลาดจีน โดยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ของ Fandango ชี้ว่า รายได้เกือบ 450 ล้านดอลลาร์จากยอดรวมทั่วโลกมาจากประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก และเกิดขึ้นหลังจากจีนได้ลดจำนวนภาพยนตร์จากสหรัฐฯ ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าฉาย และยังมีความเป็นไปได้ในการจำกัดภาพยนตร์อเมริกันเพิ่มเติม ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภาษีการค้าระหว่างประเทศ
เรียกได้ว่า Zootopia 2 เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันต่างประเทศที่เปิดตัวแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน และสามารถทำลายสถิติภาพยนตร์แอนิเมชันต่างประเทศที่ทำรายได้สูงสุดในจีนได้ภายในเวลาเพียง 5 วันหลังเข้าฉาย
นอกจากความสำเร็จเฉพาะตัวของภาพยนตร์แล้ว ปรากฏการณ์ Zootopia 2 ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดโรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ โดยในปี 2025 ภาพยนตร์เรต PG ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว ทำผลงานเหนือกว่าภาพยนตร์เรต PG-13 คือภาพยนตร์ที่มีคำหยาบคายไม่เกินห้าคำ และไม่มีฉากโป๊หรือเปลือย และภาพยนตร์เรต R (Restricted) คือภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เช่น ความรุนแรง การใช้ภาษาหยาบคาย ภาพเปลือย หรือเนื้อหาทางเพศอย่างชัดเจน
จากข้อมูลล่าสุดระบุว่า ตลาดโรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ มีรายได้รวมในสหรัฐฯ และแคนาดาแบ่งตามเรตติ้ง แบ่งเป็นภาพยนตร์เรต PG อยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วยเรต PG-13 อยู่ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ และเรต R อยู่ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์ แนวโน้มดังกล่าวเริ่มชัดเจนตั้งแต่ปี 2024 ซึ่งเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ที่ภาพยนตร์เรต PG มียอดขายตั๋วในประเทศสูงกว่าทุกเรต หลังจากที่เรต PG-13 ครองตลาดมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ
พอล เดอร์การาเบเดียน หัวหน้าฝ่ายแนวโน้มตลาดของ Comscore ระบุว่า เด็กและครอบครัวมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการตัดสินใจเลือกชมภาพยนตร์เรต PG ซึ่งอิทธิพลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจากยอดขายตั๋วที่ทำสถิติสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
พร้อมทิ้งท้ายว่า แม้ตั๋วภาพยนตร์เรต PG จะตั้งราคาต่ำกว่าภาพยนตร์เรตอื่นเพื่อตอบโจทย์กับกลุ่มครอบครัว แต่กลับสามารถสร้างรายได้รวมในระดับมหาศาลได้ ซึ่งยิ่งตอกย้ำความโดดเด่นของความสำเร็จด้านบ็อกซ์ออฟฟิศของภาพยนตร์กลุ่มนี้เพิ่มขึ้น
ภาพ:Alex PakhoMovie/shutterstock
อ้างอิง:


