การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจหลายแห่งจำเป็นต้องปิดทำการ แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมมาพร้อมกับผลกระทบทางธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้
Disney’s เป็นหนึ่งในธุรกิจที่จำต้องปิดสวนสนุก Disneyland ในเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทอง เพราะชาวจีนจำนวนมากต่างมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงหยุดตรุษจีน ทำให้ Disney’s พลาดรายได้ไปอย่างน่าเสียดาย
ตอนนี้สวนสนุกทั้ง 2 แห่งยังคงถูกปิดอย่างไม่มีกำหนด และ ‘ผลกระทบทางการเงินที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการปิด’ คริสติน แม็กคาร์ธี (Christine McCarthy) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Disney’s กล่าว
หัวเรือใหญ่ฝ่ายการเงินคาดการณ์ว่า หากปิดสวนสนุกทั้งคู่ต่อไปอีก 2 เดือน จะทำให้ Disney’s เสี่ยงสูญรายได้ 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8.7 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2020 และอาจส่งผลไปถึงผลประกอบการรวมด้วย
โดย 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.2 พันล้านบาท จะเป็นผลกระทบที่มาจากการปิด Disneyland ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นกำลังหลักที่เข้ามาช่วยพยุงรายได้ของ Disneyland ในฮ่องกง ที่เผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงมาหลายเดือนแล้ว ยิ่งมาเจอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา อาจทำให้ไตรมาสนี้ สวนสนุกในฮ่องกงรายได้หายไป 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.5 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามเมื่อนักวิเคราะห์ถามว่า โรคระบาดจะกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวเอเชียที่ไปเที่ยวสวนสนุกในบ้านเกิดหรือไม่
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ตอบว่า อาจจะไม่กระทบมากนัก เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน 18-22% ของผู้ที่มาเที่ยวสวนสนุกทั้งหมด โดยทั่วไปแล้วชาวเอเชียไม่ได้มีสัดส่วนที่มากขนาดนั้น
เช่น Disney World ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา นักท่องเที่ยวจากเอเชียไม่ได้ติด 5 อันดับชาวต่างชาติที่มาเยือนยังสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย อังกฤษ, บราซิล, แคนาดา, เม็กซิโก และอาร์เจนตินา เป็นต้น
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: