ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเบื้องต้นว่า ศาลจังหวัดราชบุรี ได้อ่านคำพิพาษายกฟ้องคดีประชามติราชบุรี โดยจำเลยเป็นนักกิจกรรมจำนวน 4 คน และนักข่าว 1 คน ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ เนื่องจากไม่มีพยานโจทก์ยืนยันว่า จำเลยได้แจกจ่ายสติกเกอร์ และไม่สามารถยืนยันว่า เอกสารที่มีการแจกจ่ายผิด พ.ร.บ.ประชามติ แต่ลงโทษปรับฐานไม่พิมพ์ลายนิ้วมือคนละ 500 บาท
คดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2559 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นรถกระบะของนายปกรณ์ อารีกุล ขณะมาให้กำลังใจผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหากรณีเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติที่ สภ.บ้านโป่ง ก่อนพบเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญ สติกเกอร์ Vote No แผ่นพับประชาสัมพันธ์ของ กกต. และกล่องรับเงินบริจาคอยู่ท้ายรถ โดยยังไม่ได้มีการแจกจ่าย จึงมีการควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่ นายปกรณ์ อารีกุล, นายอนันต์ โลเกตุ และนายอนุชา รุ่งมรกต สามนักกิจกรรมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) นายทวีศักดิ์ เกิดโภคา ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ประชาไท ก่อนมีการแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา 61 วรรค 2 นอกจากนั้นยังมีการแจ้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศ คมช. ฉบับที่ 25/2549 ต่อทั้ง 4 คน เหตุไม่พิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งเจ้าพนักงาน (อ่านที่นี่)
จากนั้น 20.20 น. เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คันรถ เข้าล้อมบ้านและควบคุมตัว นายภานุวัฒน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ โดยไม่มีหมายจับหรือหมายค้น แล้วนำตัวมาที่ สภ.บ้านโป่ง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ เช่นกัน เหตุเนื่องจากมีภาพนายภานุวัฒน์ ขนเอกสารรณรงค์ของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ก่อนพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมาขออำนาจศาลจังหวัดราชบุรีฝากขัง
Photo: ประชาไท
อ้างอิง: