จุดเริ่มต้นของ L’Or de J’adore
Parfums Christian Dior เปรียบดั่งมรดกอันล้ำค่าของ Dior มาเนิ่นนาน เมื่อ Francis Kurkdjian ต้องมาต่อยอดสร้างสรรค์น้ำหอมที่เปี่ยมเสน่ห์กลิ่นใหม่ เขาจึงศึกษาทุกรายละเอียดที่ผ่านมาของประวัติศาสตร์น้ำหอม J’adore เพื่อเจาะลึกถึงแก่นแท้ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยแนวกลิ่นที่สื่อถึงความหรูหรา ความเป็นผู้หญิงที่ทรงพลัง และมีจิตวิญญาณที่โดดเด่นตามแบบฉบับของ Dior จากมุมมองและประวัติอันยาวนานของอดีต Francis Kurkdjian ได้หลอมรวมให้เกิดเป็นมุมมองใหม่ๆ นำไปสู่การตีความกลิ่นสุดคลาสสิกที่เขากำลังจะนำพาทุกคนก้าวเข้าสู่หัวใจสำคัญของ L’Or de J’adore ที่มีองค์ประกอบอันซับซ้อนของดอกไม้ โดยเขาได้เพิ่มความเข้มข้นของกลิ่นดอกไม้มากขึ้น เพื่อสร้างนิยามแห่งเอกลักษณ์ใหม่ให้กับกลิ่นหอมของ L’Or de J’adore ทำให้ได้ผลลัพธ์ของกลิ่นที่มีเสน่ห์อย่างล้ำลึก
L’Or de J’adore ทองคำอันล้ำค่าของน้ำหอมกลิ่นใหม่
L’Or ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงทองคำ และเมื่อคำคำนี้อยู่ในชื่อน้ำหอม L’Or de J’adore จึงเป็นชื่อที่มีความหมายอย่างสง่างาม เพราะถ้าเปรียบกับการจะได้มาซึ่งทองคำบริสุทธิ์ ต้องผ่านกระบวนการหล่อหลอมและผ่านความร้อนจนได้เป็นทองที่บริสุทธิ์ ไร้สิ่งเจือปน การตีความของน้ำหอมกลิ่นใหม่นี้จึงล้ำค่าไม่แพ้กัน เพราะมันแสดงถึงสัญลักษณ์ที่ล้ำลึก เปล่งประกาย และสง่างามอย่างมีเอกลักษณ์ น้ำหอมที่บรรจุอยู่ในขวดอันสวยงามนี้ จึงไม่ต่างจากของเหลวอันล้ำค่าที่พร้อมจะมอบความสุขให้กับผู้คนที่ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ในทุกๆ วัน
กลิ่นหอมของ L’Or de J’adore เป็นอย่างไร
จากที่ผู้เขียนได้ดมกลิ่นน้ำหอมนี้แล้ว รู้สึกว่ากลิ่นของ L’Or de J’Adore นั้นมีการต่อยอดจากซีรีส์ของน้ำหอม J’Adore ได้อย่างน่าทึ่งคือ มีมิติและกลมกล่อมยิ่งขึ้น ด้วยความที่ J’adore L’Or เป็นน้ำหอมที่มีแรงบันดาลใจมาจากช่อดอกไม้แสนสวยที่ถูกนำมาตกแต่งใหม่ ทำให้เสน่ห์ของกลิ่นหอมผสานกันออกมาได้หลายกลิ่น โดยกลิ่นแรกๆ ที่จะเด่นออกมาเลยคือกลิ่นดอกมะลิและกุหลาบ (ปลูกเองบนพื้นที่เพาะปลูกในเมือง Grasse อันโด่งดังและได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำหอมชั้นเยี่ยมของโลก) เมื่อผสานกับกลิ่นหวานๆ ของวานิลลา, ดอกกระดังงา, ดอกลิลลี่ และดอกไวโอเลต ก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นแนวฟลอรัลฟรุตตี้ที่มีความนุ่มยิ่งขึ้น ถือเป็นกลิ่นที่ Francis Kurkdjian ร่ายมนตร์ออกมาได้อย่างน่าสนใจทีเดียว อีกทั้งการออกแบบขวดใหม่สื่อถึงความเซ็กซี่ เย้ายวน และหรูหรา ดีไซน์มาในรูปทรงโถที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม และเพิ่มการตกแต่งล้อมคอขวดน้ำหอมด้วยแผ่นสีทอง
ในฐานะผู้อำนวยการสร้างน้ำหอมของ Parfums Christian Dior นั้น Francis Kurkdjian บอกว่า มันเป็นการเดินทางที่น่าเหลือเชื่อที่สุด และเขาก็ทำงานในทุกขั้นตอนด้วยความจริงใจและใส่ใจ ในขณะที่ Parfums Christian Dior เป็นแบรนด์ระดับโลกและมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย การจะสร้างสรรค์น้ำหอมที่โดนใจผู้คนภายใต้วัฒนธรรมและภูมิหลังที่แตกต่างกันจริงๆ และไม่มีสูตรตายตัว เพราะมันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น สำหรับเขามันเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า มันคือความรู้สึกที่เขามีต่อสิ่งต่างๆ และนำเอาประสบการณ์การทำงานและการเดินทางมาหลอมรวมกันเป็นความจริงใจ ที่สื่อสารออกมาผ่านผลงานการปรุงน้ำหอมที่เขาอุทิศตนและทุ่มเทอย่างเต็มที่
สำหรับน้ำหอม L’Or de J’adore จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 1 กันยายนนี้
เกี่ยวกับ Francis Kurkdjian
Francis Kurkdjian คือผู้ที่สร้างน้ำหอม Le Male รุ่นขายดี ให้กับ Jean Paul Gaultier ในปี 2009 ตอนนั้นเขาอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น และในเวลาต่อมา Francis Kurkdjian กับ Marc Chaya ก็ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์น้ำหอม Maison Francis Kurkdjian ขึ้นมา และปัจจุบันก็เป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือ LVMH เช่นกัน
ล่าสุดในปี 2021 Francis Kurkdjian ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสร้างน้ำหอมให้กับ Parfums Christian Dior และผุดคอลเล็กชันน้ำหอม La Collection Privée Christian Dior ที่ประสบความสำเร็จทั้งสองกลิ่นคือ Cologne Blanche และ Eau Noire
นอกจากนี้ Francis Kurkdjian ยังเคยคว้ารางวัลดังๆ มาแล้ว อาทิ ตำแหน่ง Chevalier des Arts et Lettres เมื่อปี 2008 รางวัล Cosmétique Mag Oscar สาขา Perfumer of the Year
ภาพ: Courtesy of Parfums Christian Dior