×

หอการค้าฯ ชงรัฐบาลใช้ ‘Digital Wallet 10,000 บาท’ ผ่านแบงก์กรุงไทย ที่มีตัวตน 40 ล้านคนในระบบ แนะจำกัดงบควบคู่ไปกับกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักลงทุน

17.10.2023
  • LOADING...
เศรษฐา ทวีสิน

หอการค้าไทยชงรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านระบบธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นธนาคารภายใต้การกำกับของรัฐบาล ที่มีประชาชนลงทะเบียนยืนยันตัวตนถึง 40 ล้านคน คู่ขนานไปกับแพลตฟอร์มและวอลเล็ต ระบุกังวลภาวะเอลนีโญกระทบภาคเกษตร แนะจำกัดงบและลงทุนกับการบริหารจัดการน้ำไปพร้อมกับกระตุ้นเศรษฐกิจ 

 

สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับคณะกรรมการหอการค้าฯ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะฝ่ายวิชาการ ถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาล ที่อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดและรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วน เพื่อประกอบการปรับปรุงรูปแบบของโครงการให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล 

 

โดยในหลักการ หอการค้าฯ มองว่าสามารถดำเนินการได้ รวมทั้งสนับสนุนแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจำเป็นต้องมีการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในมิติต่างๆ ไปพร้อมกัน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างเหมาะสม ซึ่งรัฐบาลต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมากภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศมีข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์และความคุ้มค่าต่อเศรษฐกิจสูงสุด 

 

หอการค้าไทยจึงมีแนวทางและข้อเสนอเพื่อให้รัฐบาลได้พิจารณาประกอบการดำเนินมาตรการดังกล่าว ดังนี้

 

1. หอการค้าฯ เห็นว่า การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินของประเทศเพื่อกระจายเม็ดเงินดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพและตรงจุดเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ดังนั้น การพัฒนาระบบให้สามารถรองรับและสนับสนุนนโยบายดังกล่าวภายใต้ระยะเวลาอันจำกัดเป็นภารกิจที่ท้าทายความสามารถของรัฐบาล จึงเสนอให้รัฐบาลใช้ระบบที่มีอยู่ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นธนาคารภายใต้การกำกับของรัฐบาล ที่มีประชาชนลงทะเบียนยืนยันตัวตนและใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันแล้วถึง 40 ล้านคน 

 

ผนวกกับแพลตฟอร์มและวอลเล็ตที่หน่วยงานต่างๆ ได้พัฒนาจนประสบความสำเร็จเป็นลักษณะระบบ Hybrid เพื่อให้มีส่วนร่วมกับการสนับสนุนการชำระเงินดิจิทัลผ่านช่องทางต่างๆ เป็นเครื่องมือสำคัญที่พร้อมสนับสนุนนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลให้ทันตามกำหนดเวลา

 

ทั้งนี้ รัฐบาลควรสนับสนุนให้เกิดการใช้จ่ายและลงทุนในทุกระดับ เน้นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ ซึ่งภาคเอกชนที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายพร้อมสนับสนุนให้สินค้าในชุมชนได้นำมาจำหน่าย โดยเชื่อว่าหากดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจะเกิดการกระจายรายได้และหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและหลายรอบ

 

2. ขอให้รัฐบาลเน้นการบริหารจัดการและพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ ควบคู่ไปพร้อมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เพื่อเพิ่มความสามารถทางการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการบริหารจัดการน้ำทางด้านชลประทาน โดยเฉพาะปัญหาเอลนีโญที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้และปีหน้า 

 

รัฐบาลต้องไม่ลืมงบลงทุนบริหารจัดการน้ำ

 

ทั้งนี้ หากปริมาณน้ำไม่เพียงพอ กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มเกษตรกร ที่ใช้น้ำถึงร้อยละ 72 ของการใช้น้ำทั้งหมด และเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดของประเทศ อีกทั้งจะมีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้นกว่า 7 ล้านครัวเรือน ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันพบว่ามี 6 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 

 

โดยหอการค้าฯ ได้เข้าไปมอบเงินช่วยเหลือในนามภาคเอกชน ผ่านมูลนิธิพาณิชย์สงเคราะห์ ด้วยเหตุนี้การลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ให้เชื่อมโยงกันทั้งประเทศอย่างเป็นระบบ จะช่วยทำให้ภาคการเกษตรของไทยมีความมั่นคง สามารถยกระดับผลผลิตและรายได้ให้กับเกษตรกรได้มากขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกันนโยบายด้านการเกษตรและการลดความเหลื่อมล้ำของรัฐบาล ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยภาคการผลิตและภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซากทุกปี 

 

“เชื่อว่าจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่กับมาตรการบริหารจัดการด้านอื่นๆ และการบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืน รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด จะทำให้นโยบายเงินดิจิทัลของรัฐบาลประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนทั่วประเทศ โดยหอการค้าไทยประเมินว่า นโยบายดังกล่าวจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของ GDP ปี 2567 ให้ขยายตัวได้ถึง 5% ตามที่รัฐบาลมุ่งหวังไว้” สนั่นกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X